THIF ได้เสนอขายหน่วยลงทุนต่อประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 15 - 22 พฤษภาคม 2557 จำนวน 2,620 ล้านหน่วย ในราคาหน่วยละ 10 บาท รวมมูลค่าเสนอขาย 26,200 ล้านบาท มีบลจ.กรุงไทย เป็นบริษัทจัดการกองทุน
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า THIF ลงทุนในที่ดินและอาคารสำหรับใช้ประกอบกิจการโรงแรม โดยลงทุนในกรรมสิทธิ์ (Freehold) 10 โครงการ และสิทธิการเช่า (Leasehold) 2 โครงการ รวม 12 โครงการ โดยโรงแรมที่กองทุนรวมเข้าลงทุนถือเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณภาพและอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่น ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ประกอบกับการบริหารจัดการโดยผู้บริหารเชนโรงแรมมืออาชีพ มีประสบการณ์สูง อาทิ Meridien S.A, Starwood Asia Paific Hotels and Resorts Pte.Ltd, Hilton International Management Corporation เป็นต้น
ทั้งนี้ THIF จะนำทรัพย์สินโครงการโรงแรม 11 โครงการ ให้เช่าแก่ บริษัท ทีซีซี โฮเทล แอสเสท แมนเนจเม้นท์ จำกัด และ 1 โครงการให้เช่าแก่ บริษัท แผ่นดินธรรม พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ตามสัญญาเช่าคราวละ 3 ปี (ต่อได้คราวละ 3 ปี รวม 10 ครั้ง) โดยผู้เช่าทั้ง 2 รายดังกล่าวจะชดเชยรายได้ค่าเช่าคงที่ให้แก่ THIF ด้วยการวางเงินสดจำนวนรวม 384.03 ล้านบาท และมีหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคารจำนวน 75 ล้านบาท เพื่อเป็นหลักประกันการชำระค่าเช่าในช่วง 3 ปีแรกนับตั้งแต่วันที่กองทุนรวมเข้าลงทุนใน 12 โครงการ
นอกจากนี้ กองทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเพิ่มจากค่าเช่าผันแปรที่เติบโตขึ้นตามการเติบโตของรายได้จากทรัพย์สินอีกด้วยTHIF เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุน ไม่กำหนดอายุโครงการ และมีลักษณะโครงการแบบระบุเฉพาะเจาะจง มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ไม่รวมกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจากการประเมินค่าหรือการสอบทานการประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์หรือสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ประจำรอบระยะเวลาบัญชีนั้น โดย THIF มีผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มบริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด ถือหน่วยลงทุน 33.32% UOB KAY HIAN (Hong Kong) ถือหน่วยลงทุน 16.86% และ บริษัท ปณชัย พาณิชยการ จำกัด ถือหน่วยลงทุน 15.27%