นอกจากนี้ จากการจัดอันดับคะแนนของบริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคอาเซียนที่ทำการสำรวจในโครงการจำนวน 529 บริษัท พบว่ามี บจ.ไทย 4 บริษัท ติดใน TOP10 และจำนวน 18 แห่ง ติดใน TOP50
นายบัณฑิต กล่าวว่า การที่ บจ.ไทยที่ยังคงติดอันดับหนึ่งในอาเซียนสะท้อนว่า บจ.ไทยน่าสนใจลงทุนเพราะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นอกจากคำนึงถึงผลตอบแทนที่ดีแล้วยังต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่ดีด้วยเพราะการที่ บจ.ไทยได้คะแนนดี ธรรมาภิบาล สังคม สิ่งแวดล้อมต้องดีมาตลอด ซึ่งก็จะเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนมากขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดในอาเซียนชัดเจนว่ามีความตื่นตัวเรื่องธรรมาภิบาลมากขึ้น หลาย บจ.ให้ความสำคัญมากขึ้น แนวโน้มทุกภาคเอกชนก็คงจะตื่นตัวเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม บจ.ไทยจำเป็นต้องมีพัฒนาต่อไปอีกหลายด้านเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในแง่การกำกับดูแลกิจการที่ดีทั้งในแง่การกำหนดนโยบายควบคู่ไปกับการนำนโยบายไปปฏิบัติจริงให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และจัดให้มีรายงานผลการปฏิบัติ ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ถือหุ้นและนักลงทุนในและต่างประเทศ และส่งเสริมให้หุ้นไนเป็นหลักทรัพย์อาเซียนที่น่าลงทุน
นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ตลท.มุ่งสนับสนุน บจ.ไทยก้าวสู่เวทีสากล ทั้งด้านการขยายธุรกิจ และด้านคุณภาพที่ได้รับการยอมรับมาตรฐานระดับโลก และยังส่งเสริมให้ธุรกิจพัฒนาสู่ความยั่งยืนด้วยการดำเนินงานโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ซึ่งได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ จึงเป็นโอกาสของ บจ.ไทยที่จะดึงดูดการลงทุน รวมทั้งสร้างเครือข่ายและพันธมิตรจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างสมดุลด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน