(เพิ่มเติม) SAMART ซื้อหุ้น SIM คืนจาก AXIATA ส่งผลให้ถือหุ้นเพิ่มเป็น 74.11%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 2, 2014 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศิริชัย รัศมีจันทร์ รองประธานกรรมการบริหาร บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) แจ้งว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาการซื้อหุ้นสามัญใน บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย (SIM) จำนวน 1,053,000,000 หุ้น (หรือคิดเป็น 23.93% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดของ SIM) คืนจากบริษัท Axiata Group Berhad (AXIATA) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SIM ในราคาหุ้นละ 2.73 บาท เมื่อ 2 ก.ค.57

ทั้งนี้ รายการซื้อขายดังกล่าวจะดำเนินการผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับจากวันที่ลงนามในสัญญา ภายหลังการดำเนินรายการดังกล่าวบริษัทจะมีสัดส่วนการถือหุ้นใน SIM เป็น 74.11%

นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SAMART ชี้แจงว่า กลุ่ม AXIATA หรือเดิมคือ เทเลคอมมาเลเซีย ได้เข้ามาถือหุ้นนับตั้งแต่ปี 2540 ถือเป็นพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์แข็งแกร่งและยาวนานเกือบ 17 ปี การบรรลุข้อตกลงครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะมีข้อขัดแย้งใดๆ แต่มาจากเหตุผลทางธุรกิจและนโยบายการลงทุนของกลุ่ม AXIATA เป็นหลัก

ทั้งนี้ เนื่องจาก AXIATAประกอบธุรกิจหลักในการเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ หรือ Mobile Operator ในขณะที่ขอบข่ายธุรกิจปัจจุบันของ SIM มุ่งเน้นการจำหน่ายมือถือและการให้บริการคอนเทนส์ จึงไม่สอดคล้องโดยตรงกับธุรกิจหลักของ AXIATA อีกทั้งกลุ่ม SAMART สามารถก็มีนโยบายในการจะถือครองหุ้นในบริษัทลูกไม่ต่ำกว่า 70% โดยประมาณ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารงาน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจาและนำมาซึ่งข้อตกลงที่น่าพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย

การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้นครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อเสถียรภาพและความแข็งแกร่งของ SIM อย่างแน่นอน โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะก้าวสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ การให้บริการคอนเทนส์ผ่านสื่อมัลติมีเดีย และการให้บริการ MVNO อย่างเต็มรูปแบบ

ผลประกอบการที่ผ่านมาสะท้อนแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจของ SIM อย่างชัดเจนและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายตัวของตลาด Smart Phone ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มขึ้นของรายได้และกำไรอย่างโดดเด่น ล่าสุด ในไตรมาส 1/57 SIM สามารถจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ Smart Phone และ Feature Phone รวมกันแล้วกว่า 1 ล้านเครื่อง ราคาขายเฉลี่ยขยับสูงขึ้นถึง 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้ยังคงมั่นใจว่าจะจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในปี 57 ได้ถึง 4 ล้านเครื่อง ประมาณการรายได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% เมื่อเทียบกับปี 56

"ยิ่งไปกว่านั้น การเข้าซื้อหุ้น SIM ครั้งนี้ ยังจะส่งผลบวกต่อกำไรในงบการเงินรวมของ SAMART ซึ่งเป็นบริษัทแม่ เพราะจะสามารถรับรู้ผลกำไรของ SIM เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการถือครองหุ้น จากเดิมประมาณ 57% เป็น 70 กว่า% โดยประมาณ"นายวัฒน์ชัย กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ