การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,551.52 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,542.73 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 323 หลักทรัพย์ ลดลง 392 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 259 หลักทรัพย์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ซึมตัวแม้จะอยู่ในแดนบวกแต่ก็น้อยกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียและตลาดในยุโรปก็บวกดีอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯเมื่อวานนี้ก็ถือว่าดี หลังจากสถานการณ์การเมืองต่างประเทศดีขึ้นทั้งในยูเครนและอิรัก
ส่วนตลาดบ้านเราจะเห็นได้ว่าหุ้นขนาดใหญ่พักตัว แต่หุ้นขนาดกลาง-เล็กยังไปได้ ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยทำให้ตลาดฯขึ้นไปได้เท่าใดนัก และวอลุ่มเทรดก็ยังน้อย ทั้งนี้คงเป็นเพราะนักลงทุนรอดูทิศทางตลาดฯและปัจจัยใหม่ เนื่องจากเมื่อดัชนีฯขึ้นไปแตะ 1,550 ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญแต่เจอแรง take profit ออกมา นอกจากนี้ตลาดฯได้รับรู้เกี่ยวกับปัจจัยในประเทศไปมากพอสมควรแล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามที่คาดไว้อย่างโรดแมพ, ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนโดยรวมงวดไตรมาส 2/57 ก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี เข้าใจว่าหลังหมดช่วงประกาศงบฯแล้วจึงมี take profit ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ดี แนะให้ติดตามตัวเลขที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯคืนนี้ และถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในวันที่ 20 ส.ค. หลังจากที่มีการรายงานการประชุมเฟดงวดเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาว่าจะมีสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไร
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(20 ส.ค.)นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มาก หากยังไม่มีปัจจัยเปลี่ยนแปลงไปจากที่เป็นอยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550-1,570 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,600.36 ล้านบาท ปิดที่ 30.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,004.49 ล้านบาท ปิดที่ 10.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 965.89 ล้านบาท ปิดที่ 223.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 946.66 ล้านบาท ปิดที่ 6.40 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SCB มูลค่าการซื้อขาย 730.45 ล้านบาท ปิดที่ 188.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท