ส่วนกระแสข่าวนักบิน 200 คนลาออกนั้น ยืนยันว่าบริษัทฯ ยังไม่ได้รับหนังสือลาออก ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 57 มาจนถึงขณะนี้มีนักบินยื่นใบลาออกราว 30-40 คนเท่านั้น จากปัจจุบัน บริษัทมีนักบินจำนวน 1,350 คน (ข้อมูล ณ เดือน สิงหาคม 2557)
พล.อ.อ.ศิวเกียรติ์ ชเยมะ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI คาดว่า Cabin Factor ในไตรมาส 3/57 จะต่ำกว่าไตรมาส 2/57 เล็กน้อยเนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่คาดว่าในไตรมาส 4/57 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นจะฟื้นตัวขึ้น จึงได้กำชับผู้จัดการฝ่ายขายในแต่ละประเทศดูแลการขายตั๋วโดยสาร และคาดว่าผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 4/57 นี้น่าจะมีกำไร
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้บริษัทจะขาดทุนไม่เกิน 1.2 หมื่นล้านบาท จากเดิมคาดว่าจะขาดทุนสูงถึง 2 หมื่นล้านบาทหากไม่มีแผนฟื้นฟูกิจการ
พล.อ.อ.ศิวเกียรติ์ กล่าวว่า แผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทอยู่ในขั้นตอนดำเนินการจัดตั้งคณะอนุกรรมการฟื้นฟูธุรกิจที่จะมีการจัดตั้งในการประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 29 ส.ค.นี้ ซึ่งจะมาจากตัวแทนกรรมการบริษัท ผู้บริหารบริษัท และตัวแทนจากซุปเปอร์บอร์ด คาดว่าแผนฟื้นฟูจะแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือน ก.ย.หรือต้นเดือน ต.ค. โดยจะใช้เวลาฟื้นฟูธุรกิจ 2 ปี วางเป้าหมายให้การบินไทยกลับมาเป็นที่หนึ่งในภูมิภาค
บริษัทจะกู้เงินจากธนาคารออมสิน จำนวน 5-7 พันล้านบาท อายุ 6-12 เดือน ภายในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อนำมาเสริมสภาพคล่อง โดยต้องรักษากระแสเงินสดในระดับ 1.2 หมื่นล้านบาท/เดือน หรือ 15% ของรายได้ และจากนั้นกู้เงินผ่านกระทรวงการคลัง จำนวน 2 หมื่นล้านบาทเพื่อรักษาวินัยการเงินหรือรักษากระแสเงินสดต่อเนื่อง และจ่ายค่าซื้อเครื่องบินล่วงหน้า ได้แก่ เครื่องบินแอร์บัสเอ 320 จำนวน 3 ลำ และโบอิ้ง 777-300ER จำนวน 2-3 ลำ แต่ทั้งนี้ แผนฟื้นฟูต้องผ่านก่อน อย่างไรก็ตาม หากธนาคารออมสินไม่ปล่อยกู้ บริษัทยังมีวงเงินที่สามารถกู้ยืมได้อยู่ 1.9 หมื่นล้านบาท
ในช่วงที่เหลือของปีนี้การบินไทยจะรับมอบเครื่องบินอีก 7 ลำ ได้แก่ เครื่องบินดรีมไลเนอร์ 787 จำนวน 3 ลำ, โบอิ้ง777 จำนวน 2 ลำและแอร์บัส จำนวน 2 ลำ ส่วนปี 58-60 จะรับมอบเฉลี่ยปีละ 5 ลำ
ทั้งนี้ THAI สั่งซื้อเครื่องบินดรีมไลเนอร์ 787 ทั้งหมดจำนวน 9 ลำ กำหนดรับมอบในข่วงปี 57-60 โดยใช้วิธีเช่าซื้อ ซึ่งมีค่าเช่าประมาณ 1 แสนเหรียญ/ลำ/ปี
ด้าน ร.ท.อธิศักดิ์ พัดชื่นใจ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ THAI กล่าวว่าตามที่มีกระแสข่าวว่านักบินของการบินไทยจะลาออกจำนวน 200 คนนั้น ไม่เป็นความจริง
โดยตามข้อเท็จจริง 200 คนเป็นจำนวนที่รวบรวมจำนวนนักบินที่ขอลาออกตั้งแต่ปี 53 จนถึงปัจจุบัน หรือเฉลี่ยปีละประมาณ 30 คน โดยปีนี้มีนักบินได้ยื่นใบลาออกราว 30-40 คน ขณะที่บริษัทรับนักบินใหม่ทั้งในส่วนนักเรียนฝึกบิน 90-100 คนในปีนี้ และนักบินที่ผ่านการฝึกหัดแล้ว ทำให้บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการลาออกของนักบิน และนักบินของบริษัทจะมีสัญญาผูกพันอย่างน้อย 8 ปี
อย่างไรก็ดี ยอมรับว่าการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบินทำให้นักบินของการบินไทยถูกดึงตัวจากสายการบินในแถบประเทศตะวันออกกลาง และสายการบินต้นทุนต่ำ เพราะเป็นนักบินมาตรฐานและสามารถยกระดับเป็นกัปตันได้จากที่เป็นผู้ช่วยนักบิน