บลจ.กรุงศรี เปิดขายกองทุนตราสารหนี้ 6 เดือน ล็อคผลตอบแทน 2.55%ต่อปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 10, 2014 15:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. กรุงศรี (KSAM) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M109(KFFIX6M109) อายุประมาณ 6 เดือน เสนอขายถึงวันที่ 15 กันยายน 2557 ลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท ประมาณการณ์ผลตอบแทน 2.55% ต่อปี

กองทุนดังกล่าว มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร China Construction Bank (สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 20% เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China (Asia) (สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 15% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Agricultural Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 15% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10% และตั๋วแลกเงินออกโดยบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10%

ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.55% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป"

“กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M109 (KFFIX6M109) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากและต้องการล็อคผลตอบแทน โดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน"นายฉัตรรพี กล่าว

สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้โลกนั้น อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาครัฐของสหรัฐปรับขึ้นร้อยละ 0.00 – 0.10 ทางด้านธนาคารกลางยุโรปได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ร้อยละ 0.05 จากร้อยละ 0.15 และลดดอกเบี้ยเงินฝากลงสู่ร้อยละ -0.2 และยังได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีนี้ลงสู่ขยายตัวร้อยละ 0.9 จากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ1.0 และปรับลดคาดการณ์ของปีหน้าลงสู่ขยายตัวร้อยละ 1.6 จากเดิมคาดว่าจะโตร้อยละ 1.หลังจีดีพีไตรมาส 2/57 โตต่ำกว่าที่คาด และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากปัญหารัสเซีย

ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยปรับขึ้นร้อยละ 0.1 – 0.06 ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยลดลงร้อยละ 0.08 จากเดือนก่อนหน้า เป็นผลจากการลดลงของราคาพลังงานและอาหาร ซึ่งเป็นผลจากมาตรการควบคุมราคาของรัฐบาลและสภาพอากาศมีความเหมาะสม ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเร่งตัวขึ้นสู่ร้อยละ 1.83 จากร้อยละ 1.81 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณว่าอุปสงค์ภายในประเทศปรับตัวดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ