(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวน์ตามภูมิภาค ยังรอดูผลประชุมเฟดสัปดาห์หน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 11, 2014 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกกาสที่จะรีบาวน์ขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้มีการปรับตัวขึ้นมาได้เล็กน้อยหลังจากที่เมื่อวานนี้ได้ปรับตัวลงไปมาก

แต่โดยรวมของตลาดหุ้นไทยน่าจะยังแกว่งในกรอบแคบอยู่ เนื่องจากเวลานี้ต่างรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ ในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยว่าจะออกมาในทิศทางไหน

สำหรับบ้านเราที่จะมีการแถลงนโยบายรัฐบาลในวันศุกร์นี้ มองว่าตลาดฯได้รับรู้ไปมากแล้ว คงจะไม่ได้ช่วยอะไรมาก แต่ตอนนี้ยังดีที่ตลาดบ้านเราไม่ได้มีปัจจัยลบอะไร

พร้อมให้แนวรับ 1,575-1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,585-1,590 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(10 ก.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,068.71 จุด เพิ่มขึ้น 54.84 จุด(+0.32%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,586.52 จุด เพิ่มขึ้น 34.23 จุด (+0.75%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,995.69 จุด เพิ่มขึ้น 7.25 จุด(+0.36%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 92.13 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 2.58 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 3.63 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 18.77 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 2.44 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.98 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.65 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.81 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(10 ก.ย.)1,582.13 จุด ลดลง 1.05 จุด(-0.07%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 237.83 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ก.ย.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(10 ก.ย.)ที่ 91.67 ดอลลาร์/บาร์เรล
ลดลง 1.08 ดอลลาร์หรือ 1.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(10 ก.ย.)ที่ 6.89 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.16/18 แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาค หลังดอลล์อ่อน-รอผลเฟด
  • "รองอธิบดีดีเอสไอ" ชำแหละปัญหาคดี "ปั่นหุ้น" ยอมรับรวบรวมพยานหลักฐานค่อนข้างยาก เพราะเหตุเกิดขึ้นเร็ว พยานปากสำคัญล้วนเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด หนำซ้ำผลประโยชน์กับความผิดที่อาจได้รับก็ต่างกันลิบ ทำให้ไม่มีใครเกรงกลัว แถมนักปั่นล้วนคนมีความรู้ แนะ ก.ล.ต. กรมสอบสวนคดีพิเศษจับมือเกาะติด ข้อมูลเรียลไทม์ เน้นปรามดีกว่าไล่ตามจับทีหลัง
  • นโยบายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะแถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในวันที่ 12 ก.ย. นี้ มีทั้งหมด 11 ด้านนโยบายหลักที่กระทบกับประชาชนคือ การปฏิรูปโครงสร้างราคาเชื้อเพลิงประเภทต่างๆ ให้สอดคล้องกับต้นทุน และให้มีภาษีที่เหมาะสมระหว่างน้ำมันต่างชนิด
  • "แบงก์ชาติ" ชี้เงินบาทอ่อนค่าตามภูมิภาค จากปัจจัยภายนอก หลังเศรษฐกิจสหรัฐ ดีขึ้นชัดเจน ขณะที่ตลาดเงินเริ่มคาดเฟดอาจ ขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ประเมินไว้ แนะจับตาสัญญาณการประชุมสัปดาห์หน้า รวมทั้งท่าทีที่มีต่อตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำคาด ยืนยันเสถียรภาพเงินบาทยังดี ค่าความผันผวนต่ำกว่าช่วง 2 ปีก่อนหน้า ส่วนแผนขึ้น "เอ็นจีวี-แอลพีจี" ภาคขนส่งกระทบเงินเฟ้อแค่ 0.01%
  • "บีโอไอ" เผยสถิติยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนช่วง 8 เดือนของปี 2557 พบว่ามีมูลค่าเงินลงทุนสูงถึง 416,500 ล้านบาท จำนวนโครงการและมูลค่าการลงทุนลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เฉพาะสิงหาคมมีมูลค่า 45,900 ล้านบาท บ่งชี้สัญญาณฟื้นตัว
  • นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายการกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยจากการปรับปรุงหลักเกณฑ์การออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิระยะยาวที่นับเป็นเงินกองทุนขั้นที่ 2 ของสถาบันการเงินได้ตามเกณฑ์การกำกับสถาบันการเงินตามมาตรฐานสากล ฉบับที่ 3 (บาเซิล 3) ของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ ซึ่งเกณฑ์ใหม่ที่ปรับปรุงช่วยให้ตราสารหนี้ฯ ตามเกณฑ์ใหม่สามารถรองรับความเสียหายของสถาบันการเงินหรือธนาคารพาณิชย์ในกรณีที่มีปัญหาความไม่เพียงพอของกองทุนได้จริง ซึ่งตราสารหนี้ตัวใหม่นี้ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตราสารหนี้ทั่วไปและเงินฝากเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 0.6-0.7% แต่มีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง ฉะนั้นสถาบันการเงินที่จะออกขายควรชี้แจงให้นักลงทุนเข้าใจ
  • "ประสงค์ พูนธเนศ"อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า การเก็บภาษีในภาพรวมทั้งปี 2557 จะต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 1.2 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลต่ำกว่าเป้า

*หุ้นเด่นวันนี้

  • CCN บมจ. ซีซีเอ็น-เทค เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวนหุ้นจดทะเบียน 230 ล้านหุ้น ราคา Par 0.50 บาทต่อหุ้น จำนวนหุ้น IPO 60 ล้านหุ้น ราคา IPO 1.25 บาท/หุ้น โดย CCN เป็นผู้จำหน่าย วางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และให้เช่าเครื่องพิมพ์และคอมพิวเตอร์

ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/57 ของ CCN มีกำไรสุทธิ 8.64 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.05 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 4.05 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.02 บาท

  • LPN(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 22 บาท เป็นหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่น่าสนใจ สำหรับการลงทุนระยะ 3-6 เดือนขึ้นไป เนื่องจากคาดว่ากำไรสุทธิปี 2558 จะกลับมาขยายตัวโดดเด่น +43.7% yoy เป็น 3,200 ล้านบาท เติบโตสูงที่สุดในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่คาดว่ากำไรปี 2558 จะเติบโต +9.2% จากการรับรู้รายได้ Backlog รอโอนสูงถึง 16,090 ล้านบาท ในปี 2558 หรือคิดเป็น Secured revenue สูงถึง 85% จากประมาณการรายได้ปี 2558 ของเราที่ 18,864 ล้านบาท หรือ +46.6% yoy และมี Valuation ที่ยังถูก
  • BECL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 47 บาท ปริมาณการใช้ทางด่วนเฉลี่ยต่อวันในเดือน ส.ค. อยู่ที่ 1,123,067 คัน ลดลงเล็กน้อย 0.2% Y-Y จากการเลื่อนเปิดภาคเรียนระดับอุดมศึกษาจากต้น มิ.ย. เป็นกลาง ส.ค. และมีวันหยุดยาวช่วงวันแม่ แต่เพิ่ม 2.1% M-M เพราะเริ่มเปิดภาคเรียน ส่วนรายได้ค่าทางด่วนเดือน ส.ค. เพิ่ม 7.6% Y-Y และ 2.5% M-M จากการขึ้นค่าทางด่วนตั้งแต่ 1 ก.ย. 2013 เรายังคาดกำไรปกติปีนี้โต 52% จากผลของการขึ้นค่าทางด่วนและส่วนแบ่งกำไรของ TTW และ CKP ที่เพิ่มขึ้น
  • DEMCO(เคทีบี)"ซื้อช่วงราคาหุ้นอ่อนตัว"เป็นหุ้นเด่นตัวหนึ่งในกลุ่ม"ขยะทองคำ"ไปแล้ว ล่าสุดราคาหุ้นปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ระยะสั้น ซึ่งใกล้จุดสูงสุดประวัติการณ์ที่ระดับ 18.48 บาท ทั้งนี้ เห็นว่า ราคาหุ้น DEMCO กำลังตอบสนองทางบวกต่อทิศทางผลประกอบการในระยะกลาง-ยาวที่ดี อีกทั้งยังมีศักยภาพที่จะเติบโตจากงานวิศวกรรมโรงไฟฟ้าในประเทศเพื่อนบ้าน (ได้แก่ พม่าและลาว) รวมถึงโรงไฟฟ้าจากขยะ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการในระยะยาว ให้ราคาเป้าหมาย 18.48 บาท
  • PCSGH(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้าใหม่ 11.3 บาท ปัจจัยหนุน คือยอดขายที่ฟื้นตัวเร็ว โดยคาดจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัว ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป โดยผู้บริหารเชื่อว่ายอดขายจะไม่ติดลบ 5-10% อย่างที่เคยประเมิน และปีหน้าคาดมีคำสั่งซื้อเพิ่มหนุนให้ยอดขายเติบโต 15% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นปี 2014-15 คาด 21.5% และ 28% โดยครึ่งปีแรกอยู่ที่ 23%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ