BJC ยังตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 2 หลัก แม้พลาดเป้าโต 20%,เล็งเปิดช่องทางขายผ่านเน็ต

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 12, 2014 11:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์(BJC)กล่าวว่า บริษัทยอมรับว่ารายได้รวมในปีนี้คงจะเติบโตไม่ถึง 20% ตามที่ตังเป้าหมายไว้ เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองที่ทำให้การบริโภคอ่อนแอ แต่บริษัทยังตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันให้รายได้เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก หรือไม่ต่ำกว่า 10%

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มครึ่งหลังน่าจะดีกว่าครึ่งแรกจากเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัว โดยเฉพาะไตรมาส 4/57 เชื่อว่าจะดีขึ้นทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบกับเดือนก่อนหน้า เนื่องจากสัญญาณที่ดีหลายด้านเริ่มกลับมา กำลังซื้อมีทิศทางที่ดีขึ้น เพราะงบประมาณภาครัฐกลับมาจับจ่ายได้ ซึ่งธุรกิจของ BJC ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับ sentiment เมื่อความเชื่อมั่นกลับมาในไตรมาส 3/57 จึงส่งผลบวกต่อสินค้าหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มเวชภัณฑ์ แต่ในส่วนสินค้ากลุ่ม Consumer ยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน เชื่อว่าไตรมาส 4/57 ที่เข้า High Season น่าจะกลับมาเต็มที่

"เดิมมองยอดขายปีนี้โต 20% แต่คงพลาดเป้าอยู่แล้ว น่าจะต่ำเป้าเพราะครึ่งแรกกระทบ แต่ก็จะพยายามเอาคืนในไตรมาส 3-4 นี้ ก็ยังคงเป้าที่ทั้งปีจะโต 2 หลักได้ โดยไตรมาส 4/57 ดีกว่าปีที่แล้ว เพราะไตรมาส 4/56 เป็นปีที่เศรษฐกิจไทยชะลอ ตอนนี้เวชภัณฑ์ดีกว่าครึ่งแรก หลังจากยอดเดือนส.ค.เห็นกลับมาแล้ว แต่ในกลุ่ม Consumer รอดูเดือน ต.ค.ซึ่งเป็นต้นไตรมาส 4 ก่อน แต่เชื่อว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะกลับมา"นายอัศวิน กล่าว

อนึ่ง ปี 56 บริษัทมีรายได้รวม 42,904 ล้านบาท งวด 6 เดือนแรกปี 57 รายได้รวมที่ 21,738 ล้านบาท

นอกจากนั้น ในไตรมาส 4/57 บริษัทมีแผนจะเปิดช่องทางขายสินค้าผ่านระบบอินเตอร์เน็ต(อีคอมเมิร์ซ) เป็นช่องทางการขายใหม่ ทั้งสินค้าประเภทเครื่องสำอางค์ สินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งจะใช้เป็นช่องทางหนึ่งในการขยายฐานลูกค้าเพิ่มเป็นการทดลองตลาด เพราะตอนนี้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากที่เคยซื้อหน้าร้านก็หันมาซื้อผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น

นายอัศวิน กล่าวอีกว่า บริษัทยังไม่มีแผนปรับขึ้นราคาสินค้าภายในปีนี้ แม้ว่าราคาวัตถุดิบจะปรับตัวสูงขึ้นหลายอย่าง อย่างเช่น มันฝรั่ง และน้ำตาล ซึ่งครึ่งปีแรกปรับขึ้นเฉลี่ยราว 10% แต่บริษัทจะหันไปเน้นการบริหารเพื่อปรับลดตนทุนแทน อย่างมันฝรั่ง ก็ไปผลิตมันฝรั่งทอดกรอบที่โรงงานผลิตในมาเลเซียและส่งกลับมาขายในประเทศไทย การที่เรามีโรงงานผลิตหลายแห่งก็ช่วยได้

และ ในอนาคตบริษัทก็จะพยายามปรับแบรนด์สินค้าของเราให้กระชับมากขึ้น โดยจะเน้นแบรนด์ที่มียอดขายดีและได้รับความนิยม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ