สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย( 19 ก.ย. 57) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 63,012 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 39,461 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 62.6% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 13,006 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 20.6% ทางด้านหุ้นกู้เอกชนมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,372 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB21DA และ LB176A(รุ่นอายุ 4.8 ปี, 7.3 ปี และ 2.8 ปี ตามลำดับ)โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 9,005 ล้านบาท หรือคิดเป็น 69% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้านหุ้นกู้เอกชนรุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด(มหาชน)(BH16DA) มูลค่า 227.4 ล้านบาท
2. หุ้นกู้บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน)(TOP273A) มูลค่า 126.1 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน)(CPF185A) มูลค่า 123.1 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 476.6 ล้านบาท หรือคิดเป็น 34.7% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 5,414 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,485 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -3,284 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.02% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.04% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01%
Yield Curve ปรับลดลงเล็กน้อยในตราสารอายุ 5 ปีขึ้นไป ประมาณ 1 bp. นักลงทุนยังคงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจโลก ล่าสุดตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ รายสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 13 ก.ย. ปรับตัวลง 36,000 ราย มาอยู่ที่ 280,000 ราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ระดับ 305,000 ราย นอกจากนี้ผลโหวตประชามติของสก็อตแลนด์ ที่ไม่แยกตัวจากอังกฤษ ส่งผลต่อ Global Sentiment ในเชิงบวก สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดขายสุทธิ(NET SELL) เท่ากับ 3,284 ล้านบาท ทั้งนี้ยอด Holding ของนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นสัปดาห์นี้ ลดลง 12,472 ล้านบาท จาก 731,861 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อน เป็น 719,389 ล้านบาท