กองทุนดังกล่าวจะเน้นการคัดเลือกตราสารที่มีคุณภาพและมีอันดับความน่าเชื่อถือที่ดี โดยกองทุนจะเข้าไปลงทุนเงินฝากธนาคารในจีนและอินโดนีเซีย สัดส่วน 44.00% หุ้นกู้ระยะสั้น ของธนาคารกรุงไทย / ตั๋วแลกเงิน ของ บมจ.บัตรกรุงไทย 20% หุ้นกู้ระยะสั้น ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด / บริษัท ไอซีบีซีลีสซิ่ง (ไทย) จำกัด 20% หุ้นกู้ระยะสั้น ของธนาคารทิสโก้ / ธนาคารธนชาต สัดส่วน 16% โดยประมาณค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 0.1018%
นายบุญชัย กล่าวว่า ทิศทางของตลาดทุนในระยะนี้มีความผันผวนมาก ทั้งจากปัจจัยของเศรษฐกิจโลก ทั้งสหรัฐฯ ที่คงรักษาคิวอีต่อไป ขณะที่ยุโรป จีน ญี่ปุ่น ก็เร่งอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อฟื้นฟูสภาพคล่อง ขณะเดียวกันปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในฮ่องกงก็เป็นอีกปัจจัยที่ยังต้องเฝ้าติดตาม ส่วนตลาดหุ้นในบ้านเรายังอยู่ในระยะปรับฐานแม้ผันผวนต่อเนื่องแม้จะเข้าสู่ไตรมาสที่ 4 แล้วก็ตาม
จากสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจในระยะนี้ บลจ.ธนชาต จึงแนะให้ผู้ลงทุนเริ่มปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นทั้งในและต่างประเทศลง เพื่อรับกับความผันผวนจากการลงทุนที่จะเกิดขึ้น โดยผู้ลงทุนควรกระจายการลงทุนระหว่างตราสารหนี้และหุ้น ทั้งในและต่างประเทศให้มีความสมดุล เพื่อควบคุมความเสี่ยงของพอร์ตที่อาจได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว