การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,546.58 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,527.88 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 452 หลักทรัพย์ ลดลง 347 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 206 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์หลังร่วงไปหลายวัน แต่โดยรวมนักลงทุนยังระมัดระวังการลงทุน เพราะไม่แน่ใจว่าการปรับฐานรอบนี้จะสิ้นสุดลงหรือยัง ขณะที่ปัจจัยจากภายนอกประเทศก็ยังกดดันอยู่
ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ เป็นผลจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกชะลอตัว โดยเฉพาะแถบยูโรโซนที่เศรษฐกิจเยอรมนีอ่อนแอลง ญี่ปุ่นก็อยู่ในช่วงการพิจารณาว่าจะขึ้นภาษีอีกหรือไม่หลังจากที่ขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งในช่วงเม.ย.ส่วนเศรษฐกิจของจีนอยู่ช่วงชะลอตัวเช่นกัน ด้านสหรัฐฯแม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาดี แต่ทำให้นักลงทุนกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือหากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาไม่ดี ก็จะกังวลไปอีกด้าน ดังนั้น ไม่ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะเป็นอย่างไรก็ไม่มีผลทางบวกต่อตลาดฯในขณะนี้มากนัก
นอกจากนั้น การอ่อนตัวอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมันส่งผลลบต่อกลุ่มพลังงานที่อาจจะขาดทุนจากสต็อคน้ำมัน จึงกลายเป็นแรงกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(9 ต.ค.)น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งรอปัจจัยใหม่ และมีโอกาสผันผวนได้ในระหว่างเทรด แนะให้เกาะติดรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)พรุ่งนี้เช้า(เวลาไทย)ว่าจะมีการส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ และจะกล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอย่างไร
พร้อมให้แนวรับ 1,530-1,520 จุด ถัดไปที่ 1,500 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,556-1,574 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,133.02 ล้านบาท ปิดที่ 10.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,760.47 ล้านบาท ปิดที่ 368.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,545.56 ล้านบาท ปิดที่ 196.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
BTS มูลค่าการซื้อขาย 1,375.35 ล้านบาท ปิดที่ 10.00 บาท ลดลง 0.20 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,318.02 ล้านบาท ปิดที่ 32.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท