TUF เผย"สแตนดาร์ดฯไพรเวท อิควิตี้"แปลง ECB เป็นหุ้นสามัญทั้งจำนวน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 10, 2014 12:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) ของกลุ่มทียูเอฟ กล่าวว่า บริษัทผู้นำด้านอาหารทะเลแช่แข็งและบรรจุกระป๋องของไทย มีความยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไพรเวท อิควิตี้ ลิมิเต็ด ได้แจ้งขอใช้สิทธิแปลงสภาพหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลยูโร (ECB) ปัจจุบันของทียูเอฟทั้งจำนวน 60 ล้านยูโร เป็นหุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวน 45,360,045 หุ้นที่มูลค่าประมาณ 2,400 ล้านบาท โดยทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัทฯ หลังจากการใช้สิทธิแปลงสภาพจะอยู่ที่ 1,192,953,874 บาท

ปัจจุบัน สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไพรเวท อิควิตี้ ลิมิเต็ด เป็นผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลยูโรรายเดียวของบริษัทฯ หุ้นกู้แปลงสภาพสกุยูโรนี้ได้ออกเมื่อตอนปลายเดือนตุลาคม 2553 เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเงินเพื่อสนับสนุนเงินทุนสำหรับทียูเอฟในการเข้าซื้อกิจการที่ยุโรป โดยหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลยูโรนี้มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี และมีอายุครบกำหนดไถ่ถอน 4 ปี ทั้งนี้หากไม่มีการแปลงสภาพ หุ้นกู้นี้จะครบกำหนดเพื่อไถ่ถอนในเดือนนี้

การที่สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ ไพรเวท อีควิตี้ มีความประสงค์ในการแปลงสภาพหุ้นกู้แปลงสภาพสกุลยูโรให้เป็นหุ้นสามัญของทียูเอฟ เป็นสิ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ ไพรเวท อีควิตี้ ต่อแนวโน้มธุรกิจของทียูเอฟ ที่มีผลประกอบการที่ดี มีความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่ง ตลอดจนมีการมีบรรษัทภิบาลที่ดี ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายทั้งในตลาดภายในประเทศและตลาดโลก อันจะส่งผลต่อการเติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืน

ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ การใช้สิทธิแปลงสภาพนี้จะช่วยสร้างความมั่นคงแก่สถานะการเงินของทียูเอฟ โดยการแปลงสภาพหนี้สินเป็นทุนในครั้งนี้จะทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทฯ แข็งแกร่งมากขึ้นทันที และส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทฯ ลดลง ซึ่งอัตราส่วนนี้เป็นหนึ่งในอัตราส่วนสำคัญที่สถาบันการเงินชั้นนำต่างๆ ใช้วัดความมั่นคงทางการเงินของบริษัทฯ โดยแทนทีทียูเอฟจะต้องชำระเงินต้นคืนให้แก่สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ไพรเวท อิควิตี้ ลิมิเต็ด ทียูเอฟ สามารถมีฐานเงินทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นจากการแปลงสภาพดังกล่าว

"เรายังคงมองหาโอกาสใหม่ๆ สำหรับการเติบโต และการนำแนวทางนั้นไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างสถานะทางการเงินของเราให้แข็งแกร่งทั้งธุรกิจภายในประเทศและต่างประเทศ"นายธีรพงศ์กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ