นายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PSTC เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้น IPO โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาจาก ก.ล.ต. ซึ่งล่าสุดทาง ก.ล.ต.ได้เข้ามาเยี่ยมชมกิจการไปแล้วเมื่อปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาเอกสารราว 14 วัน
เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปใช้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนหรือโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล จำนวน 7 โครงการ กำลังการผลิตรวม 6.93 เมกะวัตต์ วางงบลงทุนเบื้องต้นราวโครงการละ 120 ล้านบาท ซึ่งจะใช้พื้นที่ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในจังหวัดตรัง ชลบุรี สุโขทัย กำแพงเพชร ชัยนาท สกลนคร และอุดรธานี ขณะที่เงินส่วนที่เหลือก็จะใช้เป็นทุนหมุนเวียนของบริษัท
นอกจากนี้บริษัทได้ยื่นแบบคำขอจำหน่ายไฟฟ้าและการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้ง 7 โครงการ ซึ่งปัจจุบันได้รับการแจ้งผลการพิจารณาอนุมัติรับซื้อไฟฟ้าแล้ว 1 โครงการ ที่ จ.ตรัง
ในช่วงเดือน พ.ย.นี้ บริษัทมีแผนจะจัดโรดโชว์ในหลายจังหวัด โดยมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนรายย่อยเป็นอย่างดี โดยฐานะทางการเงินของบริษัทถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไม่มีหนี้สิน ขณะที่ปีนี้คาดว่ารายได้จะเติบโตดีกว่าปีก่อนที่มีรายได้ 444 ล้านบาท และกำไร 13.87 ล้านบาท เนื่องจากครึ่งปีแรกมีรายได้แล้ว 226 ล้านบาท และกำไร 14.57 ล้านบาท อีกทั้งในอนาคตเมื่อมีการลงทุนด้านพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นก็จะส่งผลทำให้รายได้ขยับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
อนึ่ง PSTC แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจการออกแบบ จำหน่ายและติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้าและตรวจวัดจัดการสภาพแวดล้อมที่มีคุณภาพสูง ซึ่งมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากธุรกิจดังกล่าวราว 85% และธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน คิดเป็น 15% ของรายได้รวม
ปัจจุบัน บริษัทมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 4 แห่ง 5 โครงการ ได้แก่ โรงงานพลังงานแสงอาทิตย์ที่จังหวัดอุดรธานี 2 โครงการ ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 1.966 เมกะวัตต์ ,โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 952 กิโลวัตต์ ที่จังหวัดมหาสารคาม, โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา ขนาด 987.84 กิโลวัตต์ ที่จังหวัดสมุทรสงคราม ที่เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ให้แก่ กฟภ.เรียบร้อยแล้ว