บลจ.ทิสโก้ โว 2 กองทริกเกอร์หุ้นญี่ปุ่นทำผลคอบแทนถึงเป้า 8%เพียง 8 วัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 5, 2014 15:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บลจ. ทิสโก้ เปิดเผยว่า ล่าสุด ณ วันที่ 4 พ.ย. 57 บลจ. ทิสโก้ สามารถบริหารกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ซีรีย์หุ้นญี่ปุ่นกองทุนเปิด ทิสโก้ แจแปน อิควิตี้ ทริกเกอร์" เข้าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 8% พร้อมเลิกกองคืนเงินแก่ผู้ลงทุนได้พร้อมกันถึง 2 กองรวด ได้แก่

“กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #5" ซึ่งเป็นกองทริกเกอร์หุ้นญี่ปุ่นกองที่ 5 ที่เสนอขายในปลายเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา โดยมีมูลค่า NAV อยู่ที่ 10.9116 บาทต่อหน่วย จึงเข้าเงื่อนไขการเลิกโครงการ หลังใช้เวลาบริหารกองทุนเพียง 8 วันทำการ ซึ่งนับเป็นสถิติใหม่ที่เร็วที่สุดของ บลจ. ทิสโก้

และ “กองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #1" กองทริกเกอร์หุ้นญี่ปุ่นกองที่ 1 ก็ถึงเป้าหมายที่ 8% ในวันเดียวกัน โดยมีมูลค่า NAV 10.8765 บาทต่อหน่วย ซึ่งสะท้อนความเชี่ยวชาญในการลงทุนต่างประเทศ และการจับจังหวะการลงทุนอย่างแม่นยำของทิสโก้ได้เป็นอย่างดี

“เราคาดการณ์ไว้ว่าญี่ปุ่นต้องออกมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และมองว่าตลาดหุ้นยังมีโมเมนตัมให้ขึ้นต่อได้ จึงแนะนำให้ลูกค้าลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่ง BoJ ก็ออกนโยบายผ่อนคลายมาตามที่คาด และตลาดหุ้นญี่ปุ่นก็พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ของเราเข้าเป้าทีเดียวถึง 2 กอง" นายสาห์รัช กล่าว

ทั้งน้ หลังจากที่ บลจ.ทิสโก้ ได้เสนอขายกองทุนทริกเกอร์ฟันด์หุ้นญี่ปุ่นในช่วงก่อนหน้านี้ โดยมองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกมีการปรับฐาน ถือเป็นจังหวะเข้าลงทุน เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น และมองว่าตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีความน่าสนใจเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่คาด โดยล่าสุดดัชนีตลาดหุ้น NIKKEI ของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นแรงหลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบผ่านโครงการ QQE รวมถึงกองทุนบำเหน็จบำนาญรัฐบาลญี่ปุ่น (GPIF) เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นทั้งในและนอกประเทศอยู่ที่ 50% ซึ่งเกินความคาดหมายของตลาด ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 7 ปี ซึ่งทั้งหมดส่งผลให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ซีรีย์หุ้นญี่ปุ่นดังกล่าว ได้เน้นลงทุนในหุ้นชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์โตเกียวของญี่ปุ่น ผ่านกองทุนอีทีเอฟ เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนให้สอดคล้องกับดัชนี Nikkei 225

ขณะที่นักลงทุนที่ยังคงให้ความสนใจในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่เศรษฐกิจยังค่อนข้างดูดีในระยะยาว และเอเชียเหนือที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ปัจจุบันทิสโก้ยังมีกองทุนที่ลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น หุ้นเอเชียเหนือ หุ้นเกาหลีใต้ ไว้เพื่อตอบโจทย์เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นกองเปิดที่สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ