นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า หุ้นบริษัทหลักทรัพย์เออีซี(AEC), บมจ.พีเออี(ประเทศไทย)หรือ PAE, บมจ.ไลฟ์ อินคอร์ปอเรชั่น(LIVE), บมจ.ทีมพรีซิชั่น(TEAM), บมจ.ซีเค พาวเวอร์(CKP), บมจ.สยามเวลเนสกรุ๊ป(SPA), บมจ.ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่(TSE), บมจ.ระยองไวร์ อินดัสตรีส์(RWI), บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้(CHOW), ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบล.เออีซี(AEC-W2),
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง(PLE-W2), ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.มิลล์คอน สตีล(MILL-W2), ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง(GEL-W4), ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์(CGD-W3) และบมจ.เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น(MLINK)
รวมทั้งสิ้น 15 หลักทรัพย์ มีโอกาสเข้าข่ายต้องใช้เกณฑ์ให้สมาชิกต้องดำเนินการให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนที่จะซื้อ(Cash Balance)คาดว่าจะเริ่มใช้วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ โดยหุ้น MLINK ใช้ต่อเนื่องไปอีก 1 สัปดาห์ ส่วนหุ้น AEC, PAE, LIVE, TEAM, CKP, SPA, TSE, RWI, CHOW, AEC-W2, PLE-W2, MILL-W2, GEL-W4, CGD-W3 จะใช้ต่อเนื่องไป 6 สัปดาห์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
หลักทรัพย์ มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน Turnover list P/E หรือ พรีเมียม
(ล้านบาท) (%) (เท่า/%)
AEC 734.26 290.99 ขาดทุน
PAE 254.91 89.30 ขาดทุน
MLINK 214.52 51.37 ขาดทุน
LIVE 341.56 85.32 173.20
TEAM 424.85 387.78 67.03
CKP 678.54 80.52 61.63
SPA 533.38 336.44 70.95
TSE 3,495.65 282.97 67.80
RWI 635.42 275.68 57.63
CHOW 1,150.80 210.85 46.99
AEC-W2 359.07 823.53 89.89%
PLE-W2 194.29 363.81 101.60%
MILL-W2 349.46 362.71 31.58%
GEL-W4 285.02 248.56 62.04%
CGD-W3 1,140.80 206.62 55.39%