KTIS เตรียม 3 พันลบ.พร้อมตั้ง รง.ใหม่รอรัฐกำหนดนโยบายโซนนิ่งเพาะปลูกชัด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 19, 2014 13:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายณัฏฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจชีวพลังงานและผลิตภัณฑ์ บมจ.เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS)กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของนโยบายภาครัฐในการจัดโซนนิ่งการเพาะปลูกของเกษตรกร ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงตามที่คาดการณ์ไว้ก็จะทำให้ปริมาณผลผลิตอ้อยจะเพิ่มขึ้นเป็น 186 ล้านตัน/ปี จากปัจจุบันที่ราว 100 ล้านตัน/ปี ดังนั้น บริษัทก็มีแผนที่จะสร้างโรงงานหีบอ้อยขึ้นอีก 1 แห่ง เบื้องต้นคาดว่าจะใช้งบลงทุนอย่างน้อย 3 พันล้านบาท

สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปี 58 คาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตมากกว่า 10% หรือเป็น 2 digit ซึ่งบริษัทตั้งเป้าที่จะรักษาส่วนแบ่งตลาดน้ำตาลให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 10% อีกทั้งบริษัทจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า 2 แห่ง ที่มีกำลังการผลิตรวม 100 เมกะวัตต์ มูลค่าลงทุนราว 2 พันล้านบาท คาดว่าจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ปลายไตรมาส 1/58 ถึงต้นไตรมาส 2/58

ขณะเดียวกันจะรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าขนาด 60 เมกะวัตต์มากขึ้น จากการเพิ่มระยะเวลาการผลิตไฟฟ้าเป็น 10 เดือน จากปีก่อนที่ผลิตไฟฟ้าได้เพียง 8 เดือน

นอกจากนั้น ราคาน้ำตาลในตลาดโลกยังมีแนวโน้มสูงขึ้น คาดว่าราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 17.5-18 เซ็นต์/ปอนด์ จากปีนี้ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 17 เซ็นต์/ปอนด์ เนื่องจากปริมาณผลผลิตน้ำตาลของโลกเริ่มปรับตัวลดลงเข้าใกล้กับความต้องการของตลาดแล้ว และปีหน้าคาดว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว แต่ปริมาณผลผลิตน้ำตาลมีแนวโน้มลดลงจากปัญหาความแห้งแล้งในบราซิลและในประเทศไทยเอง ทำให้ผลผลิตรวมในตลาดโลกปรับตัวลดลง

ส่วนปีนี้กำไรสุทธิคาดว่าจะเติบโตมากกว่า 10% แน่นอน หลังจาก 3 ไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว 1,386 ล้านบาท สูงกว่าทั้งปี 56 ที่มีกำไรสุทธิ 1,268 ล้านบาท และแนวโน้มไตรมาส 4/57 จะยังคงดีต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า

“โรงงานน้ำตาลของเราทั้ง 3 โรงงาน จะเริ่มทำการผลิต (เปิดหีบอ้อยของฤดูการผลิต 57/58) ในเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งบริษัทมีแผนจะทำการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าของโรงงานไฟฟ้า KTBP ตั้งแต่ช่วงทดลองเครื่องจักรในเดือนพฤศจิกายนนี้ สำหรับธุรกิจเอทานอลก็ยังคาดว่าจะมีผลประกอบการที่ดีในช่วงไตรมาสที่ 4 เนื่องจากราคาของเอทานอลยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ดังนั้นเชื่อว่าผลประกอบการของ KTIS ในไตรมาสที่ 4 จะยังคงดีต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 3" นายณัฎฐปัญญ์ กล่าว

ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 3/57 ลูกค้าต่างประเทศมารับน้ำตาลตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามากกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทำให้มีรายได้จากการจำหน่ายน้ำตาล 1,056.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 34% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/56 ส่วนธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอลมียอดขาย 349.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/56 ประกอบกับการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีกำไรสุทธิ 220.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 125.31 ล้านบาท

และงวด 9 เดือนของปี 57 บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 1,386.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเป็นกำไรสุทธิที่มากกว่าตัวเลขทั้งปีของปี 56 ซึ่งทำกำไรสุทธิได้ 1,263.84 ล้านบาท โดยรายได้งวด 9 เดือนเท่ากับ14,152.10 ล้านบาท มาจากการผลิตและจำหน่ายน้ำตาล 74.2% การขายเยื่อกระดาษฟอกขาวจากชานอ้อย 10.0% การผลิตและจำหน่ายเอทานอล 9.0% ไฟฟ้าชีวมวล 3.8% และอื่นๆ 3.0%

อนึ่ง กลุ่ม KTIS อยู่ระหว่างจับมือกับพัรนธมิตร คือกลุ่มซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น และนิสชิน ชูการ์ ขยายงานทั้งสายธุรกิจน้ำตาลและชีวพลังงาน โดยมีโครงการผลิตน้ำเชื่อม (Liquid Sucrose) และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ (Super Refined Sugar) ที่บริเวณโรงงานน้ำตาล จ.นครสวรรค์ ใช้เงินลงทุนประมาณ 980 ล้านบาท กำลังการผลิตน้ำเชื่อม 400 ตัน (400,000 กิโลกรัม) ต่อวัน และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์พิเศษ 500 ตัน (500,000 กิโลกรัม) ต่อวัน คาดว่าจะติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จและเริ่มผลิตได้กลางปี 2558

ในสายธุรกิจชีวพลังงาน ก็ได้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวมวลอีก 2 โรง กำลังการผลิตโรงละ 50 เมกะวัตต์ รวมเป็น 100 เมกะวัตต์ โดยทั้ง 2 แห่งจะอยู่ในพื้นที่ติดกับโรงงานน้ำตาลที่จังหวัดอุตรดิตถ์ และที่จังหวัดนครสวรรค์ จึงไม่มีปัญหาในเรื่องของเชื้อเพลิงชานอ้อยที่จะนำมาใช้ผลิตไฟฟ้า ใช้เงินลงทุนประมาณโรงละ 960 ล้านบาท และยังมีโครงการผลิตปุ๋ยชีวภาพ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรได้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพดี ในราคาที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาคุณภาพอ้อยอีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ