ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย: วันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 69,739 ล้านบาท

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 24, 2014 17:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 69,739 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 33,488 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 48.0% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 19,817 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 28.4% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,679 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด

สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB236A, LB15DA และ LB21DA (รุ่นอายุ 8.6 ปี, 1.1 ปี และ 7.1 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 11,202 ล้านบาท หรือคิดเป็น 57% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL154A) มูลค่า 401.8 ล้านบาท

2. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (TLT164A) มูลค่า 127.6 ล้านบาท

3. หุ้นกู้ของบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด (MPSC249A) มูลค่า 114.5 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 643.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 38.4% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้

ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 876 ล้านบาท

2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 2,110 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -2,695 ล้านบาท

ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.04% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.44% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.02%

>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้

Yield Curve ปรับตัวลดลงในตราสารอายุ 6 เดือนถึง 10 ปี ประมาณ 1-2 bps. นักลงทุนจับตาการ Book Building ตามแผนการทำธุรกรรม Bond Switching ของกระทรวงการคลังที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ด้านปัจจัยต่างประเทศ ล่าสุดธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% สู่ระดับ 2.75% และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.4% สู่ระดับ 5.6% โดยมีผลตั้งแต่วันเสาร์ที่ 22 พ.ย. เพื่อลดต้นทุนการกู้ยืมและกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลต่อ Global Sentiment ในเชิงบวก สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้มียอดขายสุทธิ (NET SELL) เท่ากับ 2,695 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ