นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า หุ้นบมจ.คาราบาวกรุ๊ป(CBG), บมจ.ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ(CYBER), บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์(GBX), บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์(ITD), บมจ.เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น(MLINK), บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์(CGD), บมจ.พรีเมียร์เอ็นเตอร์ไพรซ์(PE), บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) (SLC), บมจ.คราวน์ เทค แอดวานซ์(AJD), บมจ.เอเชีย คอร์ปอเรท ดีเวลลอปเมนท์(ACD), บมจ.ไทยบริการอุตสาหกรรมและวิศวกรรม(TIES), บมจ.ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม(TFD) และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม(TFD-W1)
รวมทั้งสิ้น 13 หลักทรัพย์ มีโอกาสเข้าข่ายต้องใช้เกณฑ์ให้สมาชิกต้องดำเนินการให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนที่จะซื้อ(Cash Balance)คาดว่าจะเริ่มใช้วันที่ 1 ธันวาคมนี้
สำหรับหุ้น ACD, AJD, CGD, TIES ใช้ต่อเนื่องไปอีก 1 สัปดาห์ ส่วนหุ้น CBG, CYBER, GBX, ITD, MLINK, PE, SLC, TFD, TFD-W2 จะใช้ต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
หลักทรัพย์ มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน Turnover list P/E หรือ พรีเมียม
(ล้านบาท) (%) (เท่า/%)
PE 367.61 357.45 ขาดทุน
GBX 212.60 142.46 ขาดทุน
CGD 1,101.22 86.33 ขาดทุน
ACD 321.77 77.22 ขาดทุน
MLINK 193.72 56.01 ขาดทุน
AJD 546.94 56.43 794.49
TFD 343.46 63.41 65.50
CBG 2,135.56 128.26 42.23
ITD 2,095.00 42.70 41.19
SLC 158.78 225.22 ขาดทุน
TIES 199.39 176.83 ขาดทุน
CYBER 910.58 104.30 ขาดทุน
TFD-W2 122.98 113.91 46.41%