TNDT คาดปี 58 รายได้โต 10%,รอเซ็น MOA โรงไฟฟ้าในพม่า 20 MW ม.ค.นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 3, 2014 11:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทย เอ็น ดี ที (TDNT) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 58 เติบโตมากกว่า 10% จากปีนี้ และคาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดจะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 23%

เนื่องจากในปีหน้าบริษัทยังมีงานให้บริการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Nondestructive Testing-NDT)เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่น การตรวจสอบฯการใช้งานอุปกรณ์ ระบบท่อลำเลียงน้ำมัน,ก๊าซ และสารเคมีทั้งทางบกและทางทะเล รวมไปถึงงานตรวจสอบและทดสอบโครงสร้างโลหะเหล็กขนาดใหญ่ นอกจากนี้จะมีงานเหมืองเข้ามาเสริมด้วย

ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) แล้ว 320 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มดำเนินงานและทยอยรับรู้รายได้ภายในปี 58

ส่วนผลประกอบการในปีนี้คาดว่ารายได้จะเติบโตราว 10% จากปี 56 ที่มีรายได้ 374.59 ล้านบาท โดยมองแนวโน้มไตรมาส 4/57 จะเป็นช่วงที่บริษัทมีรายได้เข้ามาสูงสุดกว่าทุกไตรมาส โดยมี Backlog ที่จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ราว 60 ล้านบาทก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่กำไรสุทธิคาดว่าจะแตะ 100 ล้านบาท และมากกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 86.16 ล้านบาท หลังจาก 9 เดือนแรกของปีมีกำไรสุทธิแล้ว 70.84 ล้านบาท จากการขยายธุรกิจและลงทุนธุรกิจใหม่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีรายได้และกำไรสุทธิเพิ่มมากขึ้น

สำหรับความคืบหน้าการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 20 เมกะวัตต์ในเมียนมาร์คาดว่าจะมีการลงนามในบันทึกข้อตกลง(MOA) กับรัฐบาลรัฐฉานในเดือน ม.ค.58 ซึ่งเลื่อนออกไปจากปลายปีนี้ เนื่องจากต้องรอความชัดเจนในเรื่องสัญญาของรัฐบาลรัฐฉานก่อน ซึ่งหากมีการเซ็น MOA เรียบร้อยแล้วจะใช้ระยะก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นเวลา 2 ปี แลังจากนั้นจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบและรับรู้รายได้เข้ามา

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อระดมทุนผ่านตลาดทุน ทั้งในรูปแบบการออกหุ้นกู้ การเพิ่มทุน และการระดมทุนในรูปแบบอื่นๆ เพื่อนำเงินมาลงทุนในโครงการดังกล่าว ซึ่งจะขึ้นกับสัญญาขายไฟว่าจะกำหนดราคารับซื้อเท่าใด ซึ่งหากราคามีความเหมาะสมก็อาจจะไม่ต้องมีการระดมทุนเนื่องจากทางสถาบันการเงินมีการสนับสนุนเงินกู้เพื่อนำมาลงทุนอย่างเต็มที่ อีกทั้งปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ราว 2 เท่า ซึ่งยังมีความสามารถในการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินได้

"ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการรอว่ารัฐบาลรัฐฉานว่าจะออกสัญญาขายไฟจำนวนกี่บาท ซึ่งถ้าเขาออกราคามาต่ำกว่า 6 บาท/หน่วย ก็อาจจะต้องมีการระดมทุนในตลาดทุน อย่างเช่น การเพิ่มทุนหรือออกหุ้นกู้ แต่ถ้ามากกว่า 6 บาท/หน่วย อาจจะไม่ต้องใช้เงินระดมทุนเพิ่ม ซึ่งทางแบงก์จะเป็นคนสนับสนุนเงินกู้ให้สำหรับโครงการนี้ทั้งหมด"นางสาวชมเดือน กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ