นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า หุ้น บมจ.คาราบาวกรุ๊ป(CBG), บมจ.นิปปอน แพ็ค(ประเทศไทย)(NPP), บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่(GRAMMY), บมจ.เมืองไทย ลิสซิ่ง(MTLS), บมจ.บีจีที คอร์ปอเรชั่น(BGT), บมจ.เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น(NBC), บมจ.เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์(NCL), บมจ.บางกอก เดค-คอน(BKD), บมจ.เอเชีย คอร์ปอเรท ดีเวลลอปเมนท์(ACD), ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น(NBC-W1) และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.บางกอก เดค-คอน(BKD-W1)
รวมทั้งสิ้น 11 หลักทรัพย์ มีโอกาสเข้าข่ายต้องใช้เกณฑ์ให้สมาชิกต้องดำเนินการให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนที่จะซื้อ(Cash Balance)คาดว่าจะเริ่มใช้วันที่ 8 ธันวาคมนี้
สำหรับหุ้น ACD ใช้ต่อเนื่องไปอีก 1 สัปดาห์ ส่วนหุ้น NPP, GRAMMY, MTLS, CBG, BGT, NBC, NCL, BKD, NBC-W1, BKD-W1, จะใช้ต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
หลักทรัพย์ มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน Turnover list P/E หรือ พรีเมียม
(ล้านบาท) (%) (เท่า/%)
ACD 231.42 54.98 ขาดทุน
NPP 166.26 44.66 ขาดทุน
GRAMMY 110.08 42.04 ขาดทุน
MTLS 1,642.27 129.35 48.50
CBG 1,081.80 84.41 45.70
BGT 80.45 249.48 ขาดทุน
NBC 298.57 228.53 159.00
NCL 771.02 792.79 64.31
BKD 87.90 49.24 58.59
NBC-W1 135.31 162.44 20.85%
BKD-W1 116.90 123.48 45.28%