(เพิ่มเติม) "สาลี่พริ้นท์ติ้ง"คาดเสนอขายหุ้น 420 ล้านหุ้น-เข้าตลาด SET ใน Q1/58

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 8, 2014 14:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.สาลี่ พริ้นท์ติ้ง (SLP) คาดว่าจะเสนอขายหุ้นสามัญจำนวน 420 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 35% ของทุนจดทะเบียนบริษัทภายหลังการเพิ่มทุน พร้อมกับเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(SET)ได้ราวไตรมาส 1/58 โดยแบ่งเป็นหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 300 ล้านหุ้น และหุ้นเดิมของ SLP ที่ บมจ.สาลี่อุตสาหกรรม(SALEE) ถืออยู่ 120 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยมี บล.คันทรี่ กรุ๊ป(ประเทศไทย) (CGS) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

ทั้งนี้ SLP ดำเนินธุรกิจรับผลิตฉลากสินค้าและงานพิมพ์คุณภาพสูง โดยใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัยส่งผลให้ฉลากที่ผลิตออกมามีคุณภาพสูง มีความละเอียดและสวยงาม ประกอบกับมีระบบการตรวจสอบคุณภาพและจำนวนของชิ้นงานหลังการผลิต ทำให้บริษัทสามารถจัดส่งสินค้าได้ครบถ้วนตามจำนวนและตรงกับคุณภาพที่ลูกค้ากำหนด กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทแบ่งออกตามคุณลักษณะและการใช้งานเป็น 3 ประเภทหลัก คือ 1)ฉลากสินค้าที่มีกาวในตัว (Self Adhesive Label) 2)ฉลากสินค้าแบบผนึกในแม่พิมพ์บรรจุภัณฑ์ (In-mould Label) และ 3) งานพิมพ์ผลิตภัณฑ์กระดาษที่ไม่มีกาว (Offset Printing)

นายเศวต นราธิปกร กรรมการผู้จัดการ SLP กล่าวว่า บริษัทมีวัตถุประสงค์จะนำเงินที่ระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้ก่อสร้างอาคารโรงงานและคลังสินค้าแห่งใหม่ ชำระหนี้คืนสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยบริษัทมีแผนจะสร้างอาคารโรงงานใกล้พื้นที่เดิม แต่จะขยายพื้นที่ขึ้นเป็น 1 หมื่นตารางเมตร จากเดิมมีพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร คาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งค่าก่อสร้างและเครื่องจักรราว 360 ล้านบาทในปี 59 จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากโรงงานเดิมที่คาดว่าปีนี้จะทำรายได้ราว 600 ล้านบาท

ดังนั้น บริษัทคาดว่ารายได้และกำไรในปี 59 เติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อโรงงานใหม่เริ่มดำเนินการผลิตได้ จากปีนี้ที่คาดว่ากำไรอาจจะต่ำกว่าปีก่อน รวมทั้งแนวโน้มปี 58 มองว่ารายได้อาจทรงตัว เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบจากภาะรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่เป็นลูกค้าหลัก โดยเฉพาะกลุ่มที่ผลิตเพื่อการส่งออก ดังนั้น บริษัทจึงใช้กลยุทธบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจด้วยการหันมาพึ่งพาลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตสินค้าจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้น จากเดิมที่เคยมีสัดส่วน 30% มีเป้าหมายจะเพิ่มเป็น 50% ในปี 58 นอกจากนั้น บริษัทยังศึกษาแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในรูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มธุรกิจของบริษัทเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นบ้าง หลังจากได้รับผลกระทบอย่างมากในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้คำสั่งซื้อลดลงเหลือเพียง 1 เดือนจากระดับปกติที่สูงกว่า 2 เดือน ขณะนี้เริ่มกระเตื้องขึ้นบ้างแล้ว น่าจะทำให้บริษัทสามารถกลับไปเติบโตได้ดี เหมือนอย่างในอดีตช่วงที่ผ่านมาเคยเติบโตในระดับ 20-30% ต่อปี แต่เนื่องจากฐานธุรกิจใหญ่ขึ้นมากแล้ว หากเติบโตได้สูงกว่า 10% ก็ถือว่าน่าพอใจ

อนึ่ง ผลการดำเนินงาน SLP ในปี 54-56 และงวด 6 เดือนแรกของปี 57 มีอัตราการขยายตัวที่ดีต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมเท่ากับ 455.83 ล้านบาท, 552.64 ล้านบาท, 717.27 ล้านบาท และ 356.46 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้นเท่ากับ 188.19 ล้านบาท, 263.18 ล้านบาท, 320.28 ล้านบาท และ 135.77 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนกำไรสุทธิเท่ากับ 78.30 ล้านบาท, 130.55 ล้านบาท, 163.80 ล้านบาท และ 64.31 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 17.18, ร้อยละ 23.62, ร้อยละ 22.84 และร้อยละ 18.04 ตามลำดับ

สาเหตุหลักที่ทำให้กำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรกของปี 57 ลดลงจำนวน 20.62 ล้านบาท หรือลดลง 24.28% ขณะที่รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากงวดเดียวกันของปีก่อน มาจากต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มสูงขึ้น และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงจากการปรับลดลงของราคาขายให้กับลูกค้าเดิมรายใหญ่รายหนึ่ง จึงทำให้กำไรสุทธิของบริษัทโดยรวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ