(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าเปิดลงแต่ไม่ลึกตามภูมิภาค หลังราคาน้ำมันยังทำ New Low

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 7, 2015 09:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยพร น้อมพิทักษ์ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ สายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเปิดปรับตัวลงแต่ไม่ลึก ซึ่งภาพโดยรวมยังเป็นลักษณะของการแกว่งตัว เนื่องจากราคาน้ำมันยังคงทำ New Low และหุ้นในกลุ่มน้ำมันอาจโดนขายในวันนี้ เพราะเมื่อวานนี้หุ้นน้ำมันขนาดใหญ่ในไทยได้มีการดีดตัวแรง ขณะที่หุ้นในกลุ่มแบงก์กลับถูกขายออกมา ซึ่งดูแล้วไม่ Make Sense

อย่างไรก็ดี เมื่อดัชนีฯลงมาแถว 1,450 จุดบวก/ลบ ถือว่าหุ้นไทยอยู่ในระดับ P/E ค่าเฉลี่ยไทยระยะยาว ซึ่งดัชนีฯปรับตัวลงมาก็ทำให้น่าสนใจที่จะเข้าลงทุนมากขึ้น เพียงตลาดฯคงอยู่ในภาพของการเขย่าอยู่ในระยะสั้น ทั้งนี้หุ้นในกลุ่มแบงก์ปัจจุบันมีการเทรด P/E 10 เท่า ซึ่งก็เหมาะที่จะลงทุนได้ ส่วนหุ้นในกลุ่มน้ำมันในระยะ 6 เดือนแรกควรจะหลีกเลี่ยงไปก่อน เพราะมองดูแล้วการกระเพื่อมของราคาน้ำมันยังสูง

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบแต่ไม่มาก ซึ่งตลาดบ้านเราอาจเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาคได้ พร้อมให้แนวรับ 1,465 จุด ส่วนแนวต้าน 1,485 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(6 ม.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,371.64 จุด ร่วงลง 130.01 จุด(-0.74%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,592.74 จุด ลดลง 59.83 จุด(-1.29%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,002.61 จุด ลดลง 17.97 จุด(-0.89%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 74.93 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 88.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 3.60 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 3.55 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.01 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.88 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(6 ม.ค.58)1,477.58 จุด ลดลง 5.67 จุด(-0.38%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,905.23 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 ม.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(6 ม.ค.58) ปิดที่ 47.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.11 ดอลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(6 ม.ค.58)ที่ 6.53 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.87/89 คาดวันนี้แกว่งในกรอบแคบ จับตาเงินทุนไหลเข้า
  • นายกฯ สั่งหน่วยงานรัฐเร่งเพิ่มขีดแข่งขัน หลังไทยถูกตัดสิทธิจีเอสพี เพิ่มวิจัยพัฒนาสินค้า ด้านเอกชนตั้งทีมศึกษาผล กระทบภายในม.ค.นี้ เสนอรัฐหามาตรการช่วย คาดส่งออกไปอียูลด 10% บัวแก้วประเมินกระทบสินค้ากว่า 6 พันรายการ มูลค่าปีละกว่า 3 หมื่นล้านบาท
  • แบงก์ระบุราคาน้ำมันที่ยังดิ่งลงต่อเนื่อง ส่งผลบวกต่อประเทศผู้นำเข้าน้ำมัน กดเงินเฟ้อลด-หนุนบริโภค-ส่งออก คาดเศรษฐกิจกลุ่มอาเซียนเติบโตได้ 4.7-5.8% ขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อไทยในไตรมาสแรกยังเคลื่อนไหวในระดับต่ำ แต่ไม่สะท้อนความเสี่ยงของภาวะเงินฝืด ระบุทิศทางราคสินค้ายังทรงตัว-ฟื้นขึ้นเล็กน้อย
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า สศค.จะปรับประมาณการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2558 ใหม่ จากเดิมที่คาดว่าจะจัดเก็บได้ 2.325 ล้านล้านบาทเป็นการปรับประมาณการรายได้ของ 3 กรมภาษีใหม่ เพื่อนำไปใช้เป็นฐานในการคำนวณการจัดเก็บรายได้ของปีงบประมาณ 2559
  • สภาผู้ส่งออกฯยันตัวเลขส่งออกปี'58 โตแค่ 2.5% ผลกระทบหนักจากเศรษฐกิจตลาดหลักไม่ดีขึ้น ถูกตัดจีเอสพี ประเทศค้าน้ำมันรายได้หดลดนำเข้า สดใสแค่อาเซียน แนะรัฐใช้นโยบายบาทอ่อน และมองจีดีพีโตแค่ 3-3.5%
  • คลังเตรียมเสนอพ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ เข้าครม.ปลายเดือนม.ค.นี้ พร้อมเร่งตีกรอบผ่อนผันผู้ประกอบการอสังหาฯ ถือแลนด์แบงก์ไม่ต้องเสียภาษีสูงสุดไม่เกิน 2 ปี ส่วนบ้านอยู่อาศัยได้ยกเว้นภาษีมีมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

  • INTUCH(โกลเบล็ก)เป้า Consensus 92.60 บาท คาดกำไรปี 2014 ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากส่วนแบ่งรายได้และกำไรของบ.ลูก เช่น ADVANC THCOM ที่ขยายตัวขึ้นโดดเด่น ทั้งนี้ระยะกลาง-ยาวยังโดดเด่นจาก ADVANC (พัฒนาการผู้ใช้ 3G 2.1GHz. มากสุดในอุตสาหกรรม และได้ประโยชน์จากการประมูล 4G) และ THCOM (กำไรแกร่ง)ด้าน div yield โดดเด่นราว 6-6.5%
  • KTB(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 27 บาท ประเมิน SET BANK -4.4% YTD เทียบกับ SET INDEX -1.4% จากการปรับพอร์ตของกองทุนในประเทศให้สอดคล้องกับการไถ่ถอนกองทุน LTF เป็นปัจจัยลบระยะสั้น และเปิดโอกาสให้เข้าสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร คาด KTB มี Downside ค่อนข้างจำกัด ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี, ซื้อขายระดับ PBV 58 ที่ 1.21 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารที่ 1.36 เท่า และคาดกำไรสุทธิปี 58 โต +10.3% yoy เป็น 36,538 ล้านบาท
  • กลุ่มโทรมือถือ(บัวหลวง)คาดผลกระทบจำกัดจากการปรับค่าโทรตามจริงเป็นวินาที ตามกรณีศึกษาจะกระทบกำไรสุทธิ ของ ADVANC และ DTAC ไม่เกิน 10% ยิ่งค่าเฉลี่ยการโทรของผู้ใช้บริการมากเกิน 3 นาที ขึ้นไปกำไรสุทธิจะกระทบเพียง 4-6% เท่านั้น และคาดว่า AIS และ DTAC จะสามารถขึ้นรายได้การให้บริการด้านอื่นเช่น Data service เพียงเล็กน้อยจะชดเชยรายได้ทั้งหมดที่หายไปจากการจ่ายค่าโทรตามวินาที
  • LPN(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 25 บาท ยอด Presales ในปี 57 ทำได้ 85% ของเป้า เพราะหลายโครงการเลื่อนมาเปิดในปีนี้ ขณะที่รายได้โอนก็พลาดเป้าเช่นกัน จึงปรับประมาณการกำไรปกติลง 17% เหลือ 1.94 พันล้านบาท หดตัว 16% Y-Y แต่คงประมาณการกำไรปี 58 ที่ 3.05 พันล้านบาท กลายเป็นโตก้าวกระโดด 57% Y-Y สูงสุดในกลุ่ม ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่ปรับลงมาตั้งแต่ปลายเดือนก่อนเริ่มยืนได้ คิดว่าน่าซื้อเก็งกำไรผลประกอบการ Q4/57 ที่คาดว่าจะดีขึ้นมาก +19% Q-Q, +20% Y-Y

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ