VIBHA เป้าปี 58 โตกว่า 10% จ้องรุก ตปท.เล็งจีน-หาพันธมิตรลุยธุรกิจใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 9, 2015 11:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.โรงพยาบาลวิภาวดี(VIBHA)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 58 เติบโตสูงกว่า 10% จากปีก่อนที่ผลประกอบการน่าจะเติบโตตามเป้าคือสูงขึ้นจากปี 56 ที่มีรายได้ 4.66 พันล้านบาท เนื่องจาก 9 เดือนแรกของปี 57 มีรายได้ 3.75 พันล้านบาท และกำไร 417 ล้านบาท ขณะที่ทั้งปี 56 มีกำไร 546 ล้านบาท

"ธุรกิจโรงพยาบาลก็จะโตไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ธุรกิจที่หวือหวา ต้องหารายได้อื่นมาเสริม ยกเว้นมีโรคระบาด แต่ถ้าปกติอัตราการเติบโตราว 5-10% เท่านั้น ไม่โตเยอะ เราจึงต้องรุกไปทำอื่นเพื่อเพิ่มกำไรในธุรกิจอื่น เพราะถ้าเราไม่ขยายงานเลยอัตรากำไรจะแค่นี้ 10%

อย่างปี 57 กำไรที่เกิดขึ้น 500 กว่าล้านบาท เป็นกำไรจากการดำเนินงาน 170 ล้านบาท และอีก 100 กว่าล้านบาท มาจากเงินปันผลที่เราเข้าไปลงทุน ซึ่งกำไรจากของเราเองประมาณ 40% ที่เหลือเป็นรายได้จากการขยายงาน จะเห็นว่าทิศทางที่เราเดิน เดินมาถูกทางแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะโตทุกปีทั้งจากเงินปันผลและการรับรู้รายได้จากบริษัทในเครือที่เข้าไปร่วมทุนหรือขยาย"นายชัยสิทธิ์ กล่าว

นายชัยสิทธิ์ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดโรงพยาบาลใหม่ 1 แห่ง คือโรงพยาบาลวิภาราม จ.สมุทรสาคร คาดเปิดให้บริการได้ราวไตรมาส 3/58 เป็นโรงพยาบาลขนาดกว่า 100 เตียง ใช้ลงทุนราว 800-1,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในช่วงติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์

ส่วนปี 59 มีแผนจะเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ย่านถนนนวมินทร์ ตามด้วยเทพารักษ์ ซึ่งเป็นไปตามแผนการเปิดโรงพายาบาลใหม่ปีละ 1 แห่ง หลังจากปลายปี 57 เปิดโรงพยาบาลที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ชื่อ โรงพยาบาลวิภารามอมตะ ขนาดกว่า 100 เตียงไปแล้ว

"บางโรงพยาบาลก็เข้าไปถือหุ้นและเข้าบริหารด้วย ส่วนใหญ่จะเข้าบริหาร แต่การเปิดเอง อย่างรพ.วิภารามอมตะเป็นการร่วมกันลงทุนกับโรงพยาบาลรามคำแหง โรงพยาบาลสินแพทย์ และรพ.วิภาวดี ลงขันกันและขยายงานเรื่อยๆ ส่วนการเข้าซื้อโรงพยาบาลอื่นนั้น ก็มีแผน แต่ถ้าไม่มีทางเลือกก็ทำเอง ถ้ามีทางเลือกก็มองทุกทาง"นายชัยสิทธิ์ กล่าว

ด้านธุรกิจที่บริษัทขยายการลงทุนนั้น จากการที่บริษัทเข้าร่วมทุนกับบริษัท ทิพยบดินทร์ ในสัดส่วน 50% ปีนี้จะมีการขยายงานเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์และน้ำยาล้างไต ซึ่งโรงพยาบาลในเครือเองก็มีความต้องการใช้มากอยู่แล้ว ดังนั้นข้อดีคือทำให้บริษัทได้ต้นทุนถูกลง และน่าจะรับรู้กำไรเพิ่มขึ้นจากปี 57 ที่มีการรับรู้ฯ เพียงบางส่วน %

นอกจากนี้ บริษัทยังมองหาธุรกิจอื่นที่จะเข้าไปลงทุนเพิ่ม เช่น ธุรกิจยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรอยู่ส่วนจะได้เห็นปีนี้หรือไม่ขึ้นอยู่กับโอกาส แต่เราต้องมองกว้างกว่าธุรกิจโรงพยาบาลอย่างเดียว

ขณะที่การลงทุนใน"เดอะ เลกาซี่ กอล์ฟ คลับ"นั้น หากเปิดให้บริการก็จะมีรายได้เข้ามาทันที ซึ่งการลงทุนดังกล่าวไม่กินส่วนทุน ส่วนที่เชียงใหม่ในส่วนสนามกอล์ฟเปิดให้บริการแล้ว กำลังจะเปิดขายที่ดินเปล่าในโครงการในเร็ว ๆ นี้ หากขายได้ทั้งหมดก็รับรู้รายได้ ซึ่งที่ดินทั้งโครงการมีกว่า 2,000 ไร่

*เล็งขยายธุรกิจโรงพยาบาลออกต่างประเทศ

นายชัยสิทธิ์ กล่าวว่า บริษัทสนใจการลงทุนเปิดโรงพยาบาลในต่างประเทศ โดยเฉพาะใน 2 ประเทศ คือ จีนและพม่า ซึ่งจีนมองโอกาสเปิดในเมืองคุนหมิง แต่ยังติดกฎระเบียบเรื่องการเข้าไปลงทุน ซึ่งอาจจะเข้าไปในลักษณะการร่วมทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น เพราะทางจีนอยากได้โนฮาวจากเรา รวมทั้งการบริหารจัดการ ปัจจุบันผู้ป่วยชาวจีนก็เข้ามาใช้บริการโรงพยาบาลในเครือทางภาคเหนือที่มีอยู่ 4 แห่ง เช่น โรงพยาบาลลานนา โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การเปิดโรงพยาบาลในพม่ายังไม่มีข้อสรุปในขณะนี้

"จีนก็น่าสนใจเพราะประชากรเยอะมากและการบริการยังล้าหลังอยู่เยอะ นโยบายจีนปีหน้าจะเน้นเรื่องโรงพยาบาลส่งเสริมเรื่องโรงพยาบาลน่าจะเปิดกว้างเรื่องการเข้าไปร่วมทุน ถ้าจะเข้าไปลงทุนมีแหล่งเงินอยู่แล้ว กู้แบงก์ก็ได้ และอยู่ในตลาดระดมทุนได้หลายแนวทาง"นายชัยสิทธิ์ กล่าว

สำหรับการตั้งโรงพยาบาลในประเทศจะเน้นไปที่ภาคเหนือและตะวันออก โดยเฉพาะแหลมฉบัง และ จ.ระยอง แต่ต้องิจารณาจำนวนประชากร เพื่อประเมินความคุ้มค่าของการลงทุน ขณะที่ทางภาคใต้ ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช แต่ยังไม่มีข้อสรุป เพียงแต่มีพันธมิตรชวนไปร่วมลงทุน

"ธุรกิจโรงพยาบาลปกติถ้าเป็นโรงพยาบาลเปิดใหม่จะขาดทุนใน 3 ปี และหยุดขาดทุนปีที่ 4 แต่เราไม่น่าห่วงเพราะก่อนหน้านั้นเรามีโรงพยาบาลที่เปิดอยู่แล้ว"นายชัยสิทธิ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ