(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวน์ตามภูมิภาค, เล็งยุโรปออก QE-ราคาน้ำมันฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 15, 2015 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนายการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวน์ได้ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะรีบาวน์ขึ้นสวนทางตลาดสหรัฐฯที่ร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา คาดว่าจะรับผลจากความคาดหวังที่ทางยุโรปจะออกมาตรการ QE เพิ่มเติม และราคาน้ำมันก็มีการฟื้นตัวขึ้นมาได้ในระยะสั้น หลังจากที่ได้อ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานในตลาดบ้านเราให้อ่อนตัวน้อยลงด้วย

อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามราคาน้ำมันในตลาดโลกว่าจะมีเสถียรภาพหรือยัง และก็ให้ติดตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจของใน ประเทศและต่างประเทศด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,520 จุด แนวต้าน 1,530-35 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(14 ม.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,427.09 จุด ร่วงลง 186.59 จุด(-1.06%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,639.32 จุด ลดลง 22.18 จุด(-0.48%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,011.27 จุด ลดลง 11.76 จุด(-0.58%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 76.99 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.63 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 56.75 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 17.09 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.40 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.59 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.53 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(14 ม.ค.58)1,523.24 จุด ลดลง 11.73 จุด(-0.76%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 75.00 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ม.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(14 ม.ค.58) ปิดที่ 48.48 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.59 ดอลลาร์ฯ
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(14 ม.ค.58)ที่ 8.05 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.76 แข็งค่าเล็กน้อย รอผลประชุมธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์หน้า
  • นายกฯ ห่วงสปช.เบรกสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 ทำให้รัฐบาลทำงานลำบากขึ้น สั่งกระทรวงพลังงานเร่งแจงข้อมูล ด้าน "วิษณุ" เตรียมถกสปช. ย้ำหลักการ รัฐบาลไม่จำเป็นต้องทำตามข้อเสนอสปช. "อลงกรณ์" ส่งรายงานถึงมือนายกฯสัปดาห์นี้ ขณะนักวิชาการแนะควรฟังความเห็นสปช.
  • กระทรวงพาณิชย์คงเป้าส่งออกปีนี้โต 4% โดยหวังว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวและทำให้ตลาดสินค้าไทยขยายตัวได้ แต่การคาดการณ์ของธนาคารโลกกลับประเมินว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 3.5% เหลือ 3.3% มีเพียงเศรษฐกิจสหรัฐฯ เท่านั้นที่ฟื้นตัว
  • นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ผลิตสินค้าที่ได้รับอานิสงส์จากการลดราคาน้ำมันดีเซล จะปรับลดราคาสินค้าลงมาเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 5% โดยวันที่ 16 ม.ค.นี้ กลุ่มน้ำมันหล่อลื่นจะปรับราคาลงเป็นกลุ่มแรก ส่วนเม็ดพลาสติก กระเบื้องมุงหลังคา เหล็กแผ่น เหล็กเส้น ปูนซีเมนต์ และปุ๋ยเคมี จะทยอยปรับลดราคาลงมาในเร็วๆ นี้
  • พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ผู้บริหารกรมการบินพลเรือน (บพ.) ไปศึกษารายละเอียดการปรับลดค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินที่ปัจจุบันนำค่าธรรมเนียมน้ำมัน (ค่าฟิวเซอร์ชาร์จ) ไปรวมไว้ในค่าโดยสาร เนื่องจากราคาน้ำมันเครื่องบินปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงคมนาคมในการดูแลผู้โดยสาร
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดสินเชื่อแบงก์ปีนี้โต 7.5% โงหัวจาก 4%ในปีก่อน จากสินเชื่อธุรกิจที่กลับมาเป็นตัวขับเคลื่อนด้วยโครงการต่างๆที่ทยอยออก แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านการเบิกจ่าย-โครงการรัฐ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • NDR (บมจ.เอ็น.ดี.รับเบอร์)เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ MAI ในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม บล.ทิสโก้ ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมอ้างอิงคู่แข่งในตลาด เช่น CPR ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ NDR ที่ 3.7-4 บาท อ้างอิง PER 13-14 เท่าปี 15F โดยมองว่า NDR จะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่และราคาวัตถุดิบยางภายในประเทศที่ต่ำ

NDR ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางรถจักรยานยนต์ ภายใต้ตราสินค้า "ND Rubber" และรับจ้างผลิตยางรถจักรยานยนต์ ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตรถจักรยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้บริษัทยังเป็นตัวแทนจำหน่ายแบตเตอรี่รถจักรยานยนต์และรถยนต์ โดยจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายยางรถจักรยานยนต์ของบริษัทซึ่งมีอยู่ประมาณ 270 รายทั่วประเทศ และมีบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนยานยนต์ที่ผลิตจากยาง

  • ITD(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 8.50 บาท คาดจะ Outperform ตลาดได้ใน 1Q58 เนื่องจากมีปัจจัยบวกรออยู่ ได้แก่ คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับรัฐบาลพม่า ในช่วงปลายเดือน ม.ค.–ต้น ก.พ., คาดว่าจะมีความคืบหน้าในการอนุมัติประทานบัตรเหมืองแร่โปรแตซ ที่จังหวัดอุดรธานี ภายใน 1Q58 และเป็นปัจจัยบวกในระยะยาวต่อ ITD โดยคงมุมมองเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในปี 2558 เนื่องจากเป็นปีแห่งการลงทุนของภาครัฐฯ จึงส่งผลให้มีการประมูลงานขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก เช่น รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้ารางคู่ไทย–จีน พร้อมคาดกำไรปกติปี 2558 เติบโต +56.9% yoy เป็น 904 ล้านบาท และมี Upside Risk ที่มีนัยสำคัญ คือโครงการเหมืองโปรแตซซึ่งยังไม่รวมไว้ในประมาณการ และคิดเป็นมูลค่าแฝงใน ITD สูงถึงหุ้นละ 13 บาท
  • LH(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 10.6 บาท มีมุมมองเชิงบวกต่อประเด็นการรับรู้กำไรจากการขาย Terminal 21 ที่สูงกว่าคาด เดิมคาดกำไร 1.1 พันล้านบาท แต่ผู้บริหารคาดมีแนวโน้มรับรู้กำไร 1.5 พันล้านบาท ส่งผลให้ปันผล 2H14 คาดมากกว่าคาด โดยคาดปันผลระหว่างกาลที่เหลือ จะจ่ายได้ ราว 0.35 บ./หุ้น
  • PTT(โกลเบล็ก)เป้า consensus สูงสุดที่ 436 บาท ได้รับประโยชน์จากการปรับโครงสร้างพลังงานในระยะยาว โดยการปรับขึ้นราคา NGV และ LPG ช่วยลดการขาดทุนได้ราว 8 พันลบ./ปี และมีกำไรพิเศษจาก Due การขายหุ้น BCP
โดยเทรดค่า P/E 9.4 P/BV 1.27 เท่า ถูกกว่า SET และวานนี้ราคาน้ำมันดิบ +2.59 US/Barrel = 48.48 US/Barrel
  • HANA(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า Consensus 45 บาท เทียบเท่ากับ P/E ปี 58 ที่ 14.15 เท่า ซึ่งมองว่าไม่ได้สูงมากสำหรับปีนี้ เพราะกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทขยายตัวสูง และมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่องในปี 58 จากปริมาณการผลิตของโรงงานเกาะกงที่จะเพิ่มขึ้นตามมาในปี 59 โดยคาดกำไรหลักปี 58 จะเติบโตก้าวกระโดดถึง 32% y-o-y เป็น 2.5 พันล้านบาท (EPS 3.18 บาทต่อหุ้น) โดยแรงสนับสนุนมาจากการขยายกำลังการผลิตซึ่งโรงงาน ลำพูน 2 (LPN2) จะเริ่มเสร็จใน 1Q58 ส่วนโรงงานที่เกาะกง แล้วเสร็จในปี 59 นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์โทรศัพท์ smart phone ได้รับความนิยมสูง จึงต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่จะนำไปใช้ที่มาก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ