แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ราคาหุ้นธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY)พุ่งซ๊ลลิ่งช่วงท้ายตลาดหลังจากมีการตั้งข้อสังเกตุกันในห้องค้าหลักทรัพย์ว่าธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิฯอาจเข้ามาถือหุ้นเพิ่ม อย่างไรก็ตาม บางกระแสก็ระบุว่าทาง BAY ไม่ยืนยันข่าวดังกล่าว
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ยังไม่ทราบสาเหตุว่าธนาคารมีความเปลี่ยนแปลงอะไรขนาดที่จะทำให้ราคา BAY พุ่งชนซิลลิ่ง แต่ในแง่ปัจจัยพื้นฐานการที่ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด ที่เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่มากเข้ามาถือหุ้นใหญ่ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของฐานะการเงินของ BAY ได้เป็นอย่างดี ทำให้ต้นทุนทางการเงิน(cost of fund)ต่ำลง ฐานลูกค้าจะขยายได้มากขึ้น
ข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 11/09/2557 อันดับ 1 คือ THE BANK OF TOKYO-MITSUBISHI UFJ, LTD. BAY ACCOUNT ถือหุ้น BAY จำนวน 4,373,714,120 หุ้น คิดเป็น 72.01%
ขณะที่บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง ระบุว่า 9 ธนาคารขนาดใหญ่รายงานกำไรไตรมาส 4/57 รวมกันที่ 4.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% YoY แต่ลดลง 8.7% QoQ (จากผลกระทบทางฤดูกาลในการบันทึกค่าใช้จ่าย) ต่ำกว่าประมาณการของเรา 4% โดยหลักจากตั้งสำรองหนี้สูญฯที่สูงกว่าคาด โดยสินเชื่อกลุ่มธนาคารเติบโต 2.5% QoQ และ 4.1% YoY ในไตรมาส 4/57 นำโดย KTB, BAY, TMB และ KBANK และคาดจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกในปี 58 ซึ่งเรามองว่าจะเติบโต 9% YoY นำโดย BAY, KTB, KBANK และ TMB