บล.ทรีนีตี้ ลดเป้าหุ้นไทยระยะสั้นสู่ 1,600 จุด คาดพักฐาน-ปัญหากรีซถ่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 10, 2015 15:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.ทรีนีตี้ ลดเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยระยะสั้นในเดือนก.พ.มาที่ระดับ 1,600 จุด จากเดิมที่ 1,640 จุด เหตุสมมติฐานการ
ลงทุนเปลี่ยนไปหลังการเลื่อนเวลาคาดการณ์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐที่เร็วขึ้น และฐานะการเงินของกรีซกดดัน รวมถึงราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นช่วงนี้ยังไม่ยั่งยืน พร้อมแนะชะลอลงทุนรอเพิ่มพอร์ทโฟลิโอในช่วงที่ดัชนีอ่อนตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,540-1,560 จุด

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ทรีนีตี้ ได้ปรับลดเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยระยะสั้นในเดือนก.พ.มาสู่ระดับ 1,600 จุดจาก 1,640 จุด และแนะนำให้ใช้ความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น โดยทยอยลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นในช่วงดัชนี SET Index บริเวณ 1,600 จุดขึ้นไป

เนื่องจากมองสมมติฐานการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งน่าจะทำให้ SET Index หมดปัจจัยกระตุ้นและคาดจะพักฐานได้ในระยะอันสั้น ได้แก่ การเลื่อนคาดการณ์ช่วงเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ที่เร็วขึ้นของนักลงทุนในตลาด หลังจากตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ล่าสุดออกมาดีมาก พร้อมกับคาดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond yield) ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จะส่งผลให้ SET Index มีความน่าสนใจลดลงผ่านระดับ Earning yield gap ที่ลดลง

ประกอบกับยังมีปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับฐานะการเงินของกรีซที่ยังคงกดดันภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลก โดยคาดการเจรจาระหว่างรัฐบาลกรีซกับ Troika มีแนวโน้มไร้ข้อสรุปในระยะสั้น ทำให้มีความเสี่ยงที่กรีซอาจถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือจากสถาบันจัดอันดับเครดิต Moody’s ในช่วง 1 เดือนข้างหน้านี้ นอกจากนั้นมองการปรับตัวขึ้น (Rebound) ของราคาน้ำมันเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและไม่ยั่งยืน และยังมองความชันของเส้นอัตราผลตอบแทน (Yield curve) พันธบัตรรัฐบาลหลายๆ ประเทศทั่วโลกอยู่ในภาวะลดลง (Flattening) เป็นการบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงชะลอตัว และขาดการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทั้งนโยบายการเงินและการคลัง

ขณะที่ยังมีปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศจากภาคการส่งออกของไทยมีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และนักวิเคราะห์ยังคงมีการปรับลดประมาณการ SET Index อย่างต่อเนื่อง

"ระดับการพักฐานของดัชนี SET Index คาดจะอยู่ที่บริเวณ 1,540-1,560 จุด และในกรณีเลวร้ายสุดบริเวณ 1,500 จุด อย่างไรก็ดีหากดัชนีมีการปรับตัวลงมาบริเวณดังกล่าว มองเป็นจุดที่น่าสนใจในการเข้าลงทุนอีกครั้ง"นายณัฐชาต กล่าว

นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดมีการคาดการณ์ว่าในเดือนมี.ค.ยังมีปัจจัยบวกรออยู่ จากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีกระแสเงินทุนต่างชาติบางส่วนไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยได้ผ่านปรากฏการณ์ EUR carry trade และดัชนี SET Index จะมีการปรับตัวขึ้นได้ผ่านปรากฏการณ์ PE expansion หากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในวันที่ 11 มี.ค.

อย่างไรก็ตามขณะนี้นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น โดยทยอยขายหุ้นและลดน้ำหนักพอร์ทโฟลิโอ ณ SET Index บริเวณเหนือ 1,600 จุดขึ้นไป เนื่องจากมองว่าเป็นระดับที่เปราะบางทั้งในแง่ของมูลค่าตลาด (Valuation) และประเด็นความเสี่ยงแวดล้อมภายนอก และแนะนำชะลอการลงทุนและรอเพิ่มพอร์ทโฟลิโอในช่วงที่ดัชนีอ่อนตัวลงมาบริเวณ แนวรับ 1,540-1,560 จุด

ทั้งนี้ ให้โฟกัสหุ้น Top pick ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่มี Low beta และ High alpha ได้แก่ BCP, IFEC, VGI, CSS, BJCHI, BTS, TMB, AAV, WHA, THAI, TRUE, ROBINS, IVL, SGP, KKP, STA, CPF, CCP, MONO, FOCUS


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ