UMS ตั้งเป้าปีนี้พลิกเป็นกำไรหลังเคลียร์สต็อกเก่า-ลดหนี้แบงก์เกือบ 50%

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 11, 2015 17:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมพร จิตเป็นธม รักษาการกรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (UMS) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทตั้งเป้าหมายผลประกอบการปีนี้จะพลิกเป็นกำไร หลังเคลียร์ถ่านหินในสต็อกเก่าได้หมด แต่ยังไม่มีการเจรจาร่วมธุรกิจกับพันธมิตรใหม่ โดยปัจจุบันมี บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์(TTA)ซึ่งเป็นบริษัทแม่สนับสนุนอยู่ เพราะฐานะยังอ่อนแอและไม่แข็งแรง

อย่างไรก็ตาม ในปี 57 บริษัทได้นำถ่านหินในสต็อกออกมาขายเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสดมาชำระหนี้ที่มีกับสถาบันการเงิน ทำให้ขระนี้มูลหนี้ลดลงไปเกือบครึ่งจากราว 1.2-1.3 พันล้านบาท ลดเหลือ 500-600 ล้านบาท เป็นการปรับฐานทางการเงินให้แข็งแกร่งขึ้นมาบ้าง

"ราคาหุ้นที่ปรับขึ้น TTA มีแผนจะขาย UMS หรือไม่ คงไม่มีแผนแบบนั้น แต่เราคงหาทุกวิถีทางที่จะทำให้ UMS สตรองมากกว่า ซึ่งปัจจุบัน TTA ถือหุ้นในนามบริษัท อะธีน โฮลดิ้งส์ จำกัด 88.68% แล้ว ตอนนี้ยังไม่มีใครเข้ามาเจรจาซื้อกิจการแต่อย่างใด"นายสมพร กล่าว

สำหรับผลประกอบการของบริษัทนั้น เพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงการจัดทำงบการเงินรายปี จากเดิมงวดปี 57 สิ้นสุดเดือน ก.ย.57 แต่ได้ขอมติผู้ถือหุ้นเปลี่ยนเป็นสิ้นสุดเดือน ธ.ค.57 โดย ณ สิ้นเดือน ก.ย.57 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ จากที่มีรายได้ราว 1,100 ล้านบาท แต่คาดว่าในเดือน ต.ค.-ธ.ค.57 ผลประกอบการน่าดีขึ้น แม้ว่าจะยังไม่เป็นบวก ซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดิมที่วางไว้ทั้งปี

ทั้งนี้ ปี 58 ที่เริ่มต้นงบฯใหม่ในเดือน ม.ค.-ธ.ค.58 บริษัทตั้งเป้าพลิกเป็นกำไรสูทธิจากปีก่อนที่ยังขาดทุนอยู่ โดยคาดว่าจะมีรายได้รวม 1,300-1,500 ล้านบาท ซึ่งมาจากนำเข้าถ่านหินใหม่มาจำหน่ายราว 90% ส่วนถ่านหินในสต็อกเดิมจะมีสัดส่วนราว 10% รวมปริมาณขายถ่านหินราว 7 แสนตัน ขณะที่ราคาถ่านหินในขณะนี้อยู่ที่ 2,000 กว่าบาท/ตันลดลงตามภาพรวมตลาด

"ภาพรวมปี 57 เราเริ่มนำถ่านหินของเก่าเดิมมาขาย เน้นเอาสต็อกเดิมออกมาขายก่อน เพราะมีต้นทุนสูงเพราะฉะนั้นที่ขายไปได้ cash flow จริง แต่ไม่ได้กำไร ขณะที่ปีนี้บริษัทซื้อของใหม่มาขาย จะพยายามซื้อมาและขายไปไม่ให้เกิดสต็อก ต้นทุนก็ว่าไปตามราคาตลาด ไม่เก็บสต็อกแล้ว"นายสมพร กล่าว

ส่วนแผนการใช้เงินในปีนี้ส่วนใหญ่เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อซื้อถ่านหินเข้ามาขาย ซึ่งปัจจุบัน TTA มีเงินกู้ให้ UMS จำนวนหนึ่งราว 350 ล้านบาท และล่าสุดได้อนุมัติเงินกู้อีกส่วนหนึ่งเข้ามาช่วย 125 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน แต่ยังไม่ได้เบิกมาใช้ ขณะที่สัดส่วนหนี้สินต่อทุนย(D/E)ปัจจุบันอยู่ที่ 3 ต่อ 1 ซึ่งบริษัทตั้งเป้าลดให้ต่ำกว่า 2 ต่อ 1 ตามเงื่อนไขที่ให้กับเจ้าหนี้

"ปีนี้ตั้งเป้า turnaround ให้ได้ ปีนี้ที่จะพยายามเป็นกำไร เพราะปีที่แล้วถือว่าปรับฐานของตัวเองได้ดีพอสมควรเรื่องภาระหนี้ทั้งหลาย แม้สภาพคล่องก็ยังเหนื่อย แต่ก็ถือว่าน่าจะทำให้ความสามารถการเดินหน้าของเราดีขึ้น จึงตั้งเป้าว่าปีที่แล้ว(57)ปรับฐาน ปีนี้ก็พยายามดึงลูกค้าเดิมกลับมา ปีหน้าก็พยายามเพิ่มเป็นสเต็ปไป ส่วนใหญ่ขายในประเทศ แผนส่งออกก็มีเริ่มคุยกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีโรงไฟฟ้าอยู่แถบประเทศเพื่อนบ้านเรา"นายสมพร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ