การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,613.44 จุด ส่วนจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,598.64 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 493 หลักทรัพย์ ลดลง 387 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 211 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งแคบคล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งแคบทั้งในแดนบวก-ลบ ภายหลังจากที่การเจรจาหนี้ของกรีซกับทางรมว.คลังยูโรโซนเมื่อคืนที่ผ่านมายังไม่มีข้อสรุป และวันนี้ก็จะมีประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปก็น่าจะยังไม่มีอะไร แต่ยังต้องรอการประชุมรมว.คลังยูโรโซนประชุมกันเรื่องหนี้ของกรีซอีกรอบในวันที่ 16 ก.พ.นี้ อย่างไรก็ดีน่าจะได้ข้อสรุปก่อนที่มาตรการปัจจุบันจะหมดอายุในวันที่ 28 ก.พ.นี้
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นไปไม่ไกลก็ปรับตัวลงมาอีกแล้ว เนื่องจากสต็อคน้ำมันของสหรัฐฯยังมีอยู่สูง อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังมีการเล่นเก็งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและปันผลที่ทยอยประกาศออกมา อีกทั้งยังมีความคาดหวังสภาพคล่องที่จะเพิ่มเข้ามาจากที่ทางธนาคารกลางยุโรป(ECB)ได้ทำ QE ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ ดังนั้นเวลานี้นักลงทุนจึงเลือกที่จะ Wait & See ไปก่อนเพื่อรอความชัดเจนในหลายเรื่อง ส่วนตลาดยุโรปที่เปิดเทรดในช่วงบ่ายนี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในแดนบวกราว 0.2-0.3%
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(13 ก.พ.)น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคาดว่าจะแกว่งตัว จากการเก็งงบฯและปันผล และคาดหวังสภาพคล่องเพิ่มจาก ECB ที่เข้ามาทำ QE ในเดือนมี.ค.นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,570 และ 1,560-1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,610-1,620 และ 1,630 จุด และมีจุดฟิวเตอร์ที่ระดับ 1,600 จุด ในทางกลยุทธ์แนะให้ซื้อตามค่าบวก
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,183.11 ล้านบาท ปิดที่ 359.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
IRPC มูลค่าการซื้อขาย 1,950.51 ล้านบาท ปิดที่ 4.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.32 บาท
TUF มูลค่าการซื้อขาย 1,514.18 ล้านบาท ปิดที่ 22.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท
INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,503.18 ล้านบาท ปิดที่ 82.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
TPIPL มูลค่าการซื้อขาย 1,314.69 ล้านบาท ปิดที่ 2.96 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท