อนึ่ง ผลประกอบการ KCT ในปี 57 มีกำไรสุทธิ 1.75 พันล้านบาท จากรายได้ 1.43 หมื่นล้านบาท ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรอยู่ที่ 1.29 แสนล้านบาท ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลมียอดลูกหนี้สุทธิ 1.52 หมื่นล้านบาท จากจำนวนสมาชิกทั้งหมด 693,273 บัญชี ณ สิ้นปี 57 บริษัทมีระดับ NPL ของบัตรเครดิตอยู่ที่ 1.7% และ NPL สินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 1.2%
นายระเฑียร กล่าวว่า บริษัทจะเน้นการเข่าถึงกลุ่มเป้าหมายไหม่ในพื้นที่ต่างจังหวัด โเยเฉพาะการขยายเข้าไปในกลุ่มลูกค้าในจังหวัดชายแดน ประกอบกับการเน้นกลุ่มคนเริ่มทำงาน (First Jobber)
ขณะที่ความเสี่ยงในปีนี้ยังกังวลเศรษฐกิจว่าจะฟื้นตัวได้จริงหรือไม่และการภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังสูงก็ยังเป็นปัจจัยที่กดดัน ซึ่งในภาวะแบบนี้อาจจะทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ของธนาคารที่นำรายได้เสริมมาจ่ายค่าบัตรเครดิตได้รับผลกระทบบ้าง แต่บริษัทก็ยังมีการระมัดระวังและมีการติดตามหนี้ที่ดีอยู่ ประกอบกับ ลูกค้าของ KTC ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีคุณภาพ ทำให้ NPL ยังต่ำ
"เกณฑ์การพิจารณาลูกค้าของเรายังเหมือนเดิม แต่เกณฑ์ของธนาคารนั้นเข้มงวดขึ้น จะเห็นได้จาก case ที่เราส่งไป 100 เคส ตอนนี้ได้อนุมัติลดลงเป็น 30 case จาก 40 case ซึ่งลูกค้ากลุ่มหลักของ KTC ยังคงเป็นลูกค้าที่มีรายได้ต่ำกว่า 40,000 บาทต่อเดือน"นายระเฑียร กล่าวด้านนายชุติเดช ชยุติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส ฝ่ายการเงิน KTC เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ชุดใหม่วงเงินรวม 1.2 หมื่นล้านบาทเพื่อทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปีนี้ โดยบริษัทคาดว่าจะเริ่มทยอยออกได้ในช่วงปลายไตรมาส 2/58 ถึงปลายปี 58 โดยหุ้นกู้ชุดใหม่จะมีอายุ 2-4 ปี
ขณะที่นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจบัตรเครดิต KTC กล่าวว่า บริษัทยืนยันยังเป็นพันธมิตรกับ บมจ.แอสเซท ไบร์ท (ABC) ในการร่วมรายการโอนคะแนน Forever Reward เข้าสะสมเป็นคะแนนในบัตรของ ABC โดยขณะนี้ ABC อยู่ระหว่างปรับปรุงเว็บไซต์ให้ใช้งานได้สมบูรณ์ จากนั้นจึงจะถโอนคะแนนสะสมเข้าสู่ระบบของ ABC