NOK คาดปี 58 Cabin Factor เฉลี่ย 85% รุกเปิดจุดบินใหม่ในจีนมากขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 24, 2015 16:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สายการบินนกแอร์ (NOK) คาดว่าปีนี้อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) อยู่ที่ 85% โดยเส้นทางภายในประเทศ ขณะนี้ถือว่านกแอร์มีเส้นทางที่ค่อนข้างครอบคลุม โดยจะเพิ่มกลยุทธ์ในเรื่องการให้บริการเพื่อแข่งขัน โดยคาดว่า Cabin Factor เฉลี่ยขณะนี้อยู่ที่ 88-89%

และในปีนี้นกแอร์จะขยายเส้นทางการบินไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยเน้นการบินไม่เกิน 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะประเทศจีนตอนกลางและตอนใต้ ซึ่งได้เริ่มเปิดให้บริการแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในเส้นทาง ดอนเมือง-มณฑลเหอเป่ย 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งมีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร(Cabin Factor) เฉลี่ย 97-98% และภายในปีนี้จะเปิดเส้นทางไปจีนอีก3-4 เมืองเช่น นานกิง เฉิงตู โดยจะเริ่มทยอยเปิดตั้งแต่ช่วงสงกรานต์

และในเดือนตุลาคมจะเปิดเส้นทาง ดอนเมือง-โฮจิมินห์ และดอนเมือง-ฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งจีนถือเป็นตลาดที่มีความสำคัญมีอัตราการเติบโตสูงและนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยในขณะที่นักท่องเที่ยวยุโรป รัสเซียยังไม่ฟื้นตัว

นายพาที กล่าวว่า ธุรกิจการบินในปีนี้ยังคงแข่งขันด้านราคากันดุเดือดแต่นกแอร์ยังยืนยันแนวทางด้านราคาและบริการประกอบกัน โดยการขยายไปที่ตลาดจีนนั้นจะเน้นไปที่ลูกค้าระดับกลาง ที่มีคุณภาพและใช้จ่ายต่อหัวสูง ซึ่งจะสามารกำหนดราคาขายได้สูงกว่าสายการบินราคาประหยัดประมาณ 10% และการขยายเส้นทางไปจีนเพื่อต้องการดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยให้มากที่สุด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ

ขณะเดียวกันในปีนี้จะมีการรับมอบเครื่องบินใหม่อีก 4 ลำ ประกอบด้วย โบอิ้ง B 737-800 จำนวน 2 ลำ และ Q400 Next Gen จำนวน 2 ลำ ( 86 ที่นั่ง) ทำให้ฝูงบินมีจำนวนทั้งสิ้น 28 ลำ อายุเฉลี่ยอยู่ที่ ไม่เกิน 3 ปี และผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นจำทำให้มีจำนวนผู้โดยสารรวมที่ประมาณ 11-12 ล้านคน

นอกจากนี้ นกแอร์ ได้ทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน (Hedging) ไว้ล่วงหน้าประมาณ 30 % และปีนี้เชื่อว่าผลประกอบการนกแอร์จะอยู่ในเกณฑ์ดี ส่วนที่ปีที่แล้ว เนื่องจากเจอปัญหาทั้งสภาพเศรษฐกิจ การเมืองภายในประเทศ

ส่วนกรณีเหตุเครื่องบินรุ่น Q400 Next Gen ของนกแอร์ เที่ยวบินที่ DD 8819 เดินทางจากน่าน-ดอนเมือง เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ เกิดประตูขัดข้องไม่สามารถปิดได้ ทำให้มีผู้โดยสารตกค้างจำนวนมาก รวมทั้งบุคคลสำคัญนั้น นายพาที ยอมรับว่า เป็นความผิดพลาดของพนักงานที่ปิดประตูเร็วจนผิดจังหวะทำให้ตกร่องและปิดไม่ได้

ในเชิงเทคนิคต้องทำการรีเซทใหม่ก่อนจะสามารถปิดอีกครั้ง แต่นกแอร์เห็นว่าเพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของผู้โดยสาร จึงได้จัดส่งเครื่องบินลำใหม่ไปรับผู้โดยสารที่ตกค้าง พร้อมกับส่งช่างไปทำการรีเซทระบบก่อนปิดประตู และจากปัญหาที่เกิดขึ้นนกแอร์และบอมบาร์ดิเอร์ จึงได้จัดการฝึกอบรมการรีเซทระบบประตู กับลูกเรือและพนักงานทุกคนเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก

นายพาที กล่าวว่า นกแอร์คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นอันดับแรก ดังนั้นหากมีความไม่แน่ใจหรือมีสัญญาณเตือน หรือสภาพอากาศไม่ดี และเลือกที่ล่าช้าหรือยกเลิกเที่ยวบินไปเลย นกแอร์ยอมถูกต่อว่า ซึ่งสายการบินอื่นล่าช้า ก็ล่าช้าเหมือนกันแต่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง ซึ่งนกแอร์มีเที่ยวบินบริการถึง 140 เที่ยวบินต่อวัน ล่าช้าไม่ถึง 15%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ