นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CMO) กล่าวว่า ในปี 58 บริษัทมีเป้าหมายที่จะรักษาความเป็นผู้นำธุรกิจอย่างมั่นคงด้วยการรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ และพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ที่เข้ากับเทรนด์และตอบสนองไลฟสไตล์ของคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยจะเปิดตัวธุรกิจใหม่ 4 ธุรกิจให้บริการครอบคลุมทั้งในกลุ่ม Music &Entertainment ,กลุ่มธุรกิจ Private Lifestyle, กลุ่มงานออกแบบและสร้างสรรค์ระบบแสง เสียง ภาพ ครบวงจร ตลอดจนกลุ่มงานธุรกิจสวนสนุกเพื่อเสริมสร้างจินตนาการให้กับเด็กๆ ทั้งหมดจะบริหารงานภายใต้การทำงานของทีมผู้บริหารรุ่นใหม่ทั้ง 4 ท่าน ซึ่งนับว่าเป็นปีแห่งการปรับตัวครั้งสำคัญในรอบ 28 ปี ของ CMO เพื่อรองรับการขยายงานทั้งในและต่างประเทศ
"บริษัทตั้งเป้าขยายงานเข้าถึงกลุ่มคน Gen Y มากขึ้น เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย บริษัทจึงต้องหาบุคลากรที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีแนวความคิดที่ทันสมัย เป็นไอคอนใหม่ๆ ในสังคม ทั้งในกลุ่มของงานด้านศิลปะ ,lifestyle,ดนตรี และด้านงานสร้างสรรค์อื่นๆ เข้ามาเสริมทัพการทำงาน บริษัทฯ เชื่อว่า ด้วยประสบการณ์ของผู้บริหารที่รวมพลังกัน จะช่วยผลักดันทำให้ CMO Group เติบโตได้อย่างยั่งยืนในธุรกิจสร้างสรรค์"นายเสริมคุณ กล่าว
สำหรับ 4 ธุรกิจใหม่พร้อม 4 แม่ทัพของ CMO Group ได้แก่ 1.หน่วยธุรกิจ PM Fusion บริหารงานโดย นางสาวเกณิกา วงศ์เกล็ดนาค ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ โดยจะดำเนินธุรกิจงานออกแบบ และสร้างสรรค์ระบบแสง เสียง ภาพ มัลติมีเดีย รวมถึงสื่อใหม่ๆ ประเภท digital media ครอบคลุมถึงงานประเภท window display, product display ที่ต้องการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ขอบเขตการให้บริการจะเป็นในรูปแบบ solution ครบวงจร กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ กลุ่มที่มี Public space เช่น ศูนย์การค้า, โรงภาพยนตร์, สถานบันเทิง,โรงแรม, สนามบิน และกลุ่มออกแบบตกแต่งภายในต่างๆ เป็นต้น
ธุรกิจที่ 2 ได้แก่ บริษัท โมเมนตัม เอส จำกัด บริหารงานโดย นางสาวพรรณธร บุญมหิทธิสุทธิ์ ให้บริการจัดงานด้าน Private Lifestyle อาทิ จัดงานครบรอบวันเกิด,งานแต่งงาน, หรือ งานปาร์ตี้สังสรรค์ เป็นต้น จุดเด่นคือ การนำสไตล์ของโลกแฟชั่นที่มีรสนิยมผสมผสานกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลได้อย่างกลมกลืน อีกทั้งรวมเอามัลติมีเดียรูปแบบใหม่ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกโมชั่นที่ปรากฏบนจอแอลอีดี หรือโปรเจ็กเตอร์ขนาดใหญ่ รวมทั้งไลต์ติ่งดีไซน์ที่สามารถสร้างแสงได้อย่างมหัศจรรย์ มาผสมผสานในการจัดงาน
ธุรกิจที่ 3 คือ การให้บริการงานด้าน Music Entertainment ครอบคลุมการจัดปาร์ตี้คอนเสิร์ต โชว์บิซทุกประเภททั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ภายใต้ชื่อ “MUSE Corporation" บริหารงานโดย นางสาวณัฐิกา สุนทรเจริญนนท์ ซึ่งนอกจากการจัดคอนเสิร์ต แล้ว ยังมีแผนงานร่วมกับคลื่นวิทยุชื่อดังในกลุ่ม iRadio จัดรายการเพลงแนว EDM (Electronic Dance Music) เป็นครั้งแรกในประเทศ ภายใต้ชื่อรายการ“The Cave" นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะผลักดันงาน Fullmoon Party ให้เกิดขึ้นทั้งใน และกลุ่มประเทศอาเซียน
และธุรกิจที่ 4 คือ “Imaginia" (อิมเมจิเนีย) โครงการสวนสนุกแห่งจินตนาการและการเรียนรู้สำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 1.5-13 ปี เป็นพื้นที่ปลูกจินตนาการและช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ด้วยพื้นที่กว่า 1,400 ตร.ม อยู่ที่ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม บริหารงานโดย นางสาวเหมือนฝัน สิริกรณ์ คุณาวงศ์
นายเสริมคุณ กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/58 จะพลิกเป็นกำไรได้หลังจากรับรู้รายได้จากหน่วยธุรกิจใหม่ คือ PM Fusion ราว 90 ล้านบาทในเดือน เม.ย.นี้ และหวังว่าทั้งปี 58 ผลประกอบการจะกลับมาเป็นกำไรได้ จาก 4 ธุรกิจใหม่ที่มีอัตรากำไรดีขึ้นและยั่งยืนกว่ากลุ่มธุรกิจอีเวนท์เอเจนซี ซึ่งเป็นธุรกิจหลักเดิม โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้รวมแตะ 2,000 ล้านบาทภายในปี 60 ซึ่งมาจากธุรกิจใหม่ราว 25%
นอกจากนั้น ในอีก 3-4 เดือนข้างหน้า บริษัทยังเตรียมเปิดตัวอีกหนึ่งธุรกิจคือการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวก็จะทำให้บริษัทมีรายได้ประจำในระยะยาวมากขึ้น โดยบริษัทตั้งใจว่าจะนำหน่วยธุรกิจทั้ง 5 กลุ่มนี้ออกไปบุกตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)ด้วย โดยงานแรกนจะเป็นปาร์ตี้ก่อนเพราะไปได้เร็ว ซึ่งในปี 58 ตั้งงบลงทุนรวม 150 ล้านบาท สำหรับธุรกิจใหม่และซื้ออุปกรณ์ ใช้จากเงินทุนหมุนเวียน กำไรสะสมของบริษัท และการกู้เงินจากสถาบันการเงิน
"ปีนี้รายได้ 1,200 ล้านบาท จากธุรกิจเดิมที่มี backlog 411 ล้านบาท ซึ่งเป็นลูกค้าประจำ เช่น งานมอเตอร์โชว์ราว 30 ล้านบาท งานมันนี่เอ็กซโป ซึ่งเราได้หลาย booth โดยเฉพาะงานมอเตอร์โชว์เราจัดอุปกรณราว 30% ในงานหรือประมาณ 7 booth งาน The Voice Kid ก็จัดการอุปกรณ์ให้ด้วย นอกจากนี้ ตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไปก็จะรับรู้รายได้จาก 4 ธุรกิจใหม่เข้ามา เช่น พีเอ็ม ฟิวชั่น เริ่มรับรู้เม.ย.นี้ ก็จะเป็นกำไรทันที อิมเมจิเนียเปิดตัวกลางปีนี้ กลุ่มมิวสิคก็จะมีคอนเสิร์ต 5-6 ครั้งในปีนี้ เมื่อธุรกิจใหม่เห็นเป็นรูปธรรม ก็จะเห็นเม็ดเงินจากโครงการเหล่านี้ชัดเจนต่อเนื่อง จึงมั่นใจปีนี้รายได้ 1,400 ล้านบาท จากธุรกิจเดิม 1,200 ล้านบาท จะมาจากธุรกิจใหม่ 200 ล้านบาท"นายเสริมคุณ กล่าว
นายเสริมคุณ กล่าวว่า ผลประกอบการทั้งปี 58 ก็คาดว่าจะพลิกเป็นกำไรด้วยกลยุทธ์รักษามาร์จิน พยายามใช้ศักยภาพของกลุ่มธุรกิจใหม่มาสร้างรายได้มากขึ้น ซึ่งธุรกิจใหม่อัตรากำไรขั้นต้นจะดีกว่าธุรกิจเดิม ก็จะทำให้รายได้และกำไรดีกว่าเดิม เมื่อผลกำไรขั้นต้นไม่เปลี่ยนแปลงมาก ต่อไปรายได้คงที่มากขึ้นเราก็จะวางแผนได้ดีขึ้น
"มาร์จินปี 58 จะดีกว่าปี 57 ที่ยอดกำไรติดลบเพราะพยายามรักษามาร์เก็ตแชร์เป็นผู้นำในตลาดอีเว้นท์ ขณะที่ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่ปี 58 นี้ เมื่อเรารักษาผู้นำในตลาดอีเวนท์ได้แล้วก็เชื่อว่าผลกำไรจะเป็นบวก ขณะที่ธุรกิจใหม่ค่อยๆ ทยอยเปิดมีรายได้กำไรเข้ามา"
พร้อมกันนั้น บริษัทยังได้ปรับกลยุทธ์การบุกตลาดอาเซียน จากเดิมจะออกไปเปิดหน่วยงานที่กัมพูชา อินโดนีเซีย และพม่า ในลักษณะการร่วมทุน ก็จะเปลี่ยนเป็นสร้าง center ให้ต่างประเทศมาชอปปิ้ง โดยจะยกเป็น theme งานไปเลยซึ่งจะทำได้ง่ายขึ้น หรืออาจจะไปร่วมทุนกับห้างสรรพสินค้าในแต่ละประเทศ ซึ่งจะต้องมีพาร์ทเนอร์ท้องถิ่นที่ลงทุนอยู่แล้วเป็นหลัก
ทั้งนี้ในส่วนของภาพรวมธุรกิจอีเว้นท์ในประเทศ ในปีนี้ คาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 5% จากมูลค่ารวมตลาดอีเว้นท์ในประเทศที่มีมูลค่าประมาณ 13,000 ล้านบาท โดยจะเห็นว่ามีการเติบโตไม่มากนัก ถึงแม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะสงบลงแล้ว แต่ภาคเอกชนยังไม่มั่นใจกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้หลายๆ บริษัท ชะลอเรื่องการใช้งบประมาณทำกิจกรรมทางการตลาด ในขณะที่ภาครัฐ ก็ไม่ได้มีแผนงานที่จะใช้งบประมาณกับการจัดอีเว้นท์ เช่นกัน แต่จะผลักดันเรื่องของการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้มากกกว่า ซึ่งก็จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนี้