(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าฟื้นตัวในกรอบจำกัด เล็งเผชิญเงินไหลออกหลังลดดบ.นโยบาย

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 12, 2015 09:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะฟื้นตัวได้ในกรอบจำกัดแถวบริเวณแนวต้านที่ 1,550-1,560 จุด ซึ่งมองว่าตลาดฯยังมีความผันผวนอยู่จากเศรษฐกิจไทยที่มีการฟื้นตัวช้า และระยะสั้นก็ต้องเผชิญกับเงินไหลออกหลังมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ทั้งนี้ ในแง่ของจิตวิทยาเป็นบวก แต่ต่างชาติมองเป็นความเสี่ยงของเงินไหลออก หากมองที่อัตราดอกเบี้ยในภูมิภาคจะเห็นได้ว่าอยู่ในระดับที่สูงกว่าบ้านเรา นอกจากนี้ทางสหรัฐฯก็ใกล้ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วย แต่ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าทางแบงก์ชาติคงจะต้องการให้เงินบาทอ่อนค่าลงเพื่อไปกระตุ้นการส่งออกบ้าง

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะปรับตัวขึ้น ทางยุโรปมองว่าเงินยูโรอ่อนค่าลงทำให้ช่วยหนุนการส่งออก ส่วนสหรัฐฯก็ยังมีความกังวลเกี่ยวกับปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งก็ต้องรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในวันที่ 17-18 มี.ค.ที่จะถึงนี้ พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,530 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

-ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(11 มี.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,635.39 จุด ลดลง 27.55 จุด(-0.16%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,849.94 จุด ลดลง 9.85 จุด(-0.20%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,040.24 จุด ลดลง 3.92 จุด(-0.19%)

  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 63.58 จุด,ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเพิ่มขึ้น 23.91 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 14.05 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.61 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 6.96 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 2.59 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(11 มี.ค.58)1,543.84 จุด เพิ่มขึ้น 12.80 จุด(+0.84%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,846.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 มี.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(11 มี.ค.58) ปิดที่ 48.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 12 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(11 มี.ค.58)ที่ 9.73 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.89/91 แนวโน้มมีโอกาสอ่อนค่าแตะ 33 ภายในเดือนมี.ค.
  • มติ กนง. 4 ต่อ 3 โหวต ลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 1 ปี เหลือ 1.75% เหตุ "บริโภค-ลงทุน" อ่อนแรงกว่าคาด มั่นใจยังมีกระสุนเพียงพอกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต จ่อปรับคาดการณ์จีดีพีใหม่ 20 มี.ค.นี้ ด้านนายแบงก์ชี้ ไม่ส่งผลกระตุ้นมาก แต่ห่วงหนี้ครัวเรือนพุ่ง คาดส่งผลทางจิตวิทยาระยะสั้น
  • "คลัง" เร่งสรุปร่างกฎหมายที่ดิน เสนอ "ครม.เศรษฐกิจ" 18 มี.ค.นี้ ก่อนเสนอเข้าที่ประชุมครม.ใหญ่สัปดาห์ถัดไป ยอมรับเกณฑ์การลดหย่อนภาษียังไม่นิ่ง เล็งยกเว้นภาษีบ้านในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ราคาไม่เกิน 2.5 ล้านบาท พร้อมยกเว้นให้ ผู้ที่อยู่อาศัยที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป
  • รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ เปิดเผยว่า ล็อกซเล่ย์ได้ทำหนังสือขอเข้าพบสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแก้ไขกฎหมายสลากกินแบ่งรัฐบาล หากเป็นการขายหวยออนไลน์รูปแบบอื่น บริษัทจะต้องใช้เวลาปรับปรุงซอฟต์แวร์เครื่องจำหน่ายสลาก 2-3 เดือน แต่ถ้าขายหวยออนไลน์แบบหวย 2 ตัว และ 3 ตัว หรือสลากกินรวบ จะสามารถเริ่มขายได้ทันที
  • ธปท.เผยเดือนแรกของปี 58 ธุรกิจ บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลแผ่วตามการใช้จ่ายของประชาชนลดลงชัดเจน พบปริมาณการใช้จ่ายบัตรเครดิตติดลบ 4.22 หมื่นล้านบาท หดตัวถึง 24.16% เทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งปริมาณการใช้จ่ายในประเทศ-ต่างประเทศ-เบิกเงินสดล่วงหน้ายอดติดลบถ้วนหน้า ขณะที่ยอดสินเชื่อติดลบ 2.16 หมื่นล้านบาทเกิดกับผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครรดิตทุกประเภท เช่นเดียวกับธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลยอดบัญชีและสินเชื่อร่วง
  • รมว.คมนาคม เผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-จีน ครั้งที่ 3 ที่ จ.หนองคาย ระหว่างวันที่ 10-11 มีนาคม ว่าที่ประชุมได้ข้อสรุปเรื่องการเดินรถ ว่าจะเป็นการตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างไทยและจีนเข้ามาดำเนินการ แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วง 1-3 ปีแรก ทางจีนจะเป็นผู้เดินรถหลัก เพื่อไทยจะเรียนรู้จากฝ่ายจีน ช่วง 4-7 ปี ไทยและจีนจะร่วมกันเดินรถฝ่ายละ 50:50 และช่วงปีที่ 7 เป็นต้นไป ไทยจะเดินรถเองเป็นหลักและจีนเป็นที่ปรึกษา การตั้งบริษัทร่วมทุนจะจัดตั้งเป็นบริษัทเอกชนหรือเป็นรัฐวิสาหกิจก็ได้ เบื้องต้นกำหนดให้ไทยมีสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 60% ฝ่ายจีนไม่เกิน 40% การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 30% และที่เหลือเป็นผู้เชี่ยวชาญเดินรถฝ่ายไทยอีก 30% โดยคาดว่าจะชัดเจนในเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2558

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SAMTEL(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 28 บาท คาดกำไรปี 58 ฟื้นตัวแรงกว่าคู่แข่ง และราคาหุ้นยังไม่แพง
  • NWR(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"เป้า 2.20 บาท มีโอกาสเห็นการปรับเพิ่มเป้าหมายและประมาณการกำไรปี 58 ขึ้น หลังเห็นสัญญาณ Turnaround ผลประกอบการ 4Q57 พลิกเป็นกำไรสุทธิ 85 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นกลับเข้าสู่ระดับปกติที่ 7.8% หลังขาดทุนต่อเนื่องติดต่อกันหลายไตรมาสก่อนหน้า พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 58 โต +1,338.2% เป็น 139 ล้านบาท จากแรงหนุนของธุรกิจก่อสร้างที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานลดลง และรับรู้คอนโด ISSI ที่ร่วมทุนกับ CI ในสัดส่วน 40% มูลค่ารวม 1.8 พันล้านบาท มียอดขายแล้ว 70% และจะเริ่มโอนตั้งแต่ 4Q58 เป็นต้นไป และมีโอกาสที่จะบันทึกกำไรพิเศษคดีคลองด่านที่ศาลตัดสินให้ชนะแล้วสูงถึง 300-500 ล้านบาท ด้าน Valuation มี Discount จากหุ้นรับเหมาขนาดใหญ่ค่อนข้างมาก
  • KTB(โกลเบล็ก)เป้า 26.60 บาท คาดกำไรปี 58 ที่ 3.5 หมื่นลบ.(+6%) จากเป้าสินเชื่อขยายตัวขึ้น 6-7% เน้นสินเชื่อ SME เพื่อให้ NIM > 2.6% , รักษา NPL อยู่ที่ระดับ 2.3%, ตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นเป็น 700 ลบ./เดือน ฐานการเงินแข็งแกร่งจาก Coverage ratio เพิ่มขึ้นเป็น 132% และได้ประโยชน์จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐปี 2558 เนื่องจากมีสินเชื่อภาครัฐสัดส่วนสูงราคาหุ้น laggard P/E 9.7 เท่า , P/BV 1.4 เท่า ต่ากว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มธนาคาร และประกาศจ่ายปันผลหุ้นละ 0.90 บ.(ดีกว่าคาดที่ 0.86) XD 21 เม.ย. yield 4%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ