(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งขึ้น-ลง รอดูผลประชุมเฟด-ธปท.ปรับลดประมาณการ GDP

ทั้งนี้ การถอยเรื่องภาษีสิ่งปลูกสร้างและที่ดินเป็นการสะท้อนถึงเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ค่อยดี ดังนั้นคงจะต้องเร่งการเบิกจ่ายให้เร็วที่สุด เพราะภาคส่งออกก็พึ่งไม่ได้ ตอนนี้ฝากความหวังไว้ที่เรื่องงบเบิกจ่าย เพราะปัจจุบันมีการเบิกจ่ายไปแล้วแค่ 10% เท่านั้นเอง

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก หลังจากที่ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯลดลง ทำให้การประชุมเฟดในวันที่ 17-18 มี.ค.ที่จะถึงนี้ อาจจะไม่มีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,550-1,535 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

-ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(12 มี.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,895.22 จุด พุ่งขึ้น 259.83 จุด(+1.47%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,893.29 จุด เพิ่มขึ้น 43.35 จุด(+0.89%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,065.95 จุด เพิ่มขึ้น 25.71 จุด(+1.26%)

• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 128.47 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 12.44 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 10.17 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 16.58 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ลดลง 4.42 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.89 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(12 มี.ค.58)1,544.34 จุด เพิ่มขึ้น 0.50 จุด(+0.03%)
• นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 424.48 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 มี.ค.58
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(12 มี.ค.58) ปิดที่ 47.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.12 ดอลลาร์
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(12 มี.ค.58)ที่ 9.33 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 32.82/84 แนวโน้มแข็งค่าจากดอลล์อ่อนหลังตัวเลขค้าปลีกสหรัฐร่วง
• "นายกฯ" สั่งชะลอกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เหตุเศรษฐกิจชะลอตัว กระทบคนรายได้น้อย ตั้งปลัดคลังศึกษาใหม่ ด้าน "ปรีดิยาธร-สมหมาย" ยันต้องปฏิรูปภาษี ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ ขณะคลังปรับเกณฑ์ลดหย่อนใหม่
• ไทย-จีนลงนามเดินหน้ารถไฟทางคู่ ตีกรอบสำรวจ-ออกแบบช่วงแรกเสร็จเดือน ส.ค.นี้ ด้านบีทีเอสพร้อมร่วมลงทุนระบบรางทั่วประเทศ ขณะ "ฉัตรชัย" เตรียมบินไปจีน 8 พ.ค. ขายข้าว 2 ล้านตัน ยางพารา 2 แสนตัน
• นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การลดดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เห็นผลทันทีต่อค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงประมาณ 30 สตางค์ ใกล้แตะ 33 บาท/เหรียญสหรัฐ แต่ยังแข็งค่ามากกว่าสกุลเงินคู่ค้า แต่ในระยะต่อไปแนวโน้มเงินบาทอาจอ่อนค่า เพราะส่วนต่างดอกเบี้ยไทย-สหรัฐแคบลง อาจส่งผลให้เงินทุนไหลออกโดยเฉพาะจากพันธบัตรกระทรวงการคลัง จึงคาดว่าสิ้นปีเงินบาทจะเคลื่อนไหวที่ 34 บาท/เหรียญสหรัฐ
• "ปรีดิยาธร เทวกุล" รองนายกรัฐมนตรี เผยถึงการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายล่าสุด ว่า จะทำให้ค่าเงินบาทอ่อนลง ช่วยกระตุ้นการส่งออกและเศรษฐกิจไทยได้บ้าง ซึ่งเมื่อรวมกับการบริโภคที่เริ่มดีขึ้นเล็กน้อย การใช้จ่ายของภาคเอกชน และงบประมาณของภาครัฐที่จะทยอยออกมามากขึ้น เช่น โครงการซ่อมสร้าง วงเงิน 2.3 หมื่นล้านบาท ที่จะเซ็นสัญญาได้หมดภายในเดือน มี.ค.นี้ ทำให้ยังเชื่อว่าเศรษฐกิจปีนี้จะยังโตได้ตามเป้าหมาย 4%ทั้งนี้ แม้ดอกเบี้ยนโยบายจะไม่ส่งผลในทันที แต่ก็มีการส่งสัญญาณที่ดีจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่าจะใช้นโยบายการเงินเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ
• นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า คาดว่าสิ้นปี 2558 สัดส่วนหนี้สาธารณะจะไม่เกิน 49% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จากปัจจุบัน 46.46% ของจีดีพี ซึ่งยังต่ำกว่ากรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนดไว้ที่ 60% ของจีดีพี
• นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 18 มี.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการเตรียมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นัดแรก ทาง กสทช.จะเสนอให้ ที่ประชุมพิจารณาอนุมัติการเปิดประมูลคลื่น 4จี บนย่านความถี่ 1800 และ 900 เมกะเฮิรตซ์ ขึ้นตามกำหนด
• ตลาดหลักทรัพย์ ประเมินลดดอกเบี้ย ไม่กระทบเงินไหลออก เหตุช่วงที่ผ่านมาไหลออกมาหลายครั้ง มั่นใจรับมือได้ชี้เงินต่างชาติขายสุทธิ เหตุกำไรบริษัทจดทะเบียนลดฮวบ เชื่อไตรมาสแรกปีนี้เริ่มเข้าภาวะปกติ ห่วงภาพเศรษฐกิจไทยชะลอตัวกระทบกำไรบริษัทจดทะเบียน วอนรัฐเร่งเบิกจ่าย

*หุ้นเด่นวันนี้

• INTUCH(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ทยอยสะสม"เป้า 114 บาท จะขึ้น XD เงินปันผล 2H57 หุ้นละ 2.23 บาท วันที่ 31 มี.ค. คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 2.84% พร้อมคาดการณ์เงินปันผลปี 2558 หุ้นละ 5.29 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.7% อีกทั้ง กสทช.เตรียมหารือกับ บอร์ดดีอี ในการประชุมนัดแรกวันที่ 18 มี.ค. เกี่ยวกับความชัดเจนของแผนการประมูล 4จี หลัง คสช.สั่งระงับการประมูลออกไป 1 ปี ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนก.ค. 2558 นี้
• CPN(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้าใหม่เพิ่มเป็น 61 บาท ได้ซื้อกิจการเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต จากกลุ่มเซ็นทรัล เพื่อที่จะได้สิทธิ์บริหารสิทธิการเช่าระยะยาวถึง 41 ปี ด้วยมูลค่า 6.4 พันล้านบาท ทั้งนี้ข้อดีคือ ราคาที่ซื้อคิดเป็นส่วนลด 16% จากราคาประเมินที่ผู้ประเมินอิสระ 2 ราย ได้จัดทำไว้ และศูนย์การค้าแห่งนี้ได้เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 47 และมีอัตราการเข้าเช่า(OR)ถึง 98% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ดี ประเมินจะช่วยเพิ่มรายได้ปีนี้ 2% โดยสมมุติฐานให้ดีลนี้เสร็จสมบูรณ์ได้วันที่ 1 มิ.ย.58
• HEMRAJ(เคเคเทรด)ยอดขายที่ดินมีแนวโน้มฟื้นตัวตั้งแต่ต้นปี การเปลี่ยนนโยบายธุรกิจหลังการเข้ามาของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ WHA จะช่วยเพิ่มมูลค่าบริษัท
• CPF(เคเทรด)ราคาหุ้นสะท้อนความวิตกต่อภาวะอุปทานส่วนเกินในไก่ไปแล้ว ขณะที่ระยะสั้นจะได้จิตวิทยาเชิงบวกต่อเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่า
• SVI(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 5.20 บาท เป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่สุดในกลุ่มขณะนี้ เพราะราคาหุ้น laggard กว่ามาก(+19% YTD) และยังต่ำกว่าราคาเฉลี่ยในช่วง 2 เดือนก่อนไฟไหม้อยู่ 6% ขณะที่การฟื้นฟูเป็นไปอย่างรวดเร็ว เครื่องจักรจะทยอยเข้ามาจนเท่ากับช่วงก่อนไฟไหม้ภายในสิ้น 1Q15 และจะทยอยเพิ่มการใช้กำลังการผลิตจนเท่าระดับปกติใน 3Q15 ลูกค้าทุกรายยังอยู่ครบและมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าที่แข็งแกร่ง ปัจจุบันมี Core PE 12.9 เท่า ถูกกว่า KCE ที่ 14.7 เท่า และ PBV ถูกกว่ามาก ส่วน Dividend yield ใกล้เคียงกันที่ 2% เศษ