BLISS ยื่นแผนควบคุมกิจการภายในให้ตลท.หวังกลับเข้าเทรด ตั้งเป้าปีนี้รายได้พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 23, 2015 18:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกษพล บวรศรีการ กรรมการผู้จัดการ บมจ.บลิส-เทล(BLISS)เปิดเผยว่า ในช่วงเดือน พ.ค.นี้ บริษัทจะนำส่งรายงานเกี่ยวกับระบบการควบคุมภายในของบริษัทให้แก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาในการนำหุ้น BLISS กลับเข้าซื้อขายตามปกติอีกครั้ง หลังจาก ตลท.ได้สั่งให้มีการหยุดการซื้อขายหลักทรัพย์ชั่วคราวไปตั้งแต่เดือน พ.ค.56 อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่สามารถมีความมั่นใจที่แน่นอนว่าจะสามารถกลับเข้ามาซื้อขายในตลท.ได้ทันในปีนี้หรือไม่ เพราะขึ้นกับการตัดสินใจของ ตลท.โดยจะต้องพิจารณางบการเงินทั้งในปีนี้และย้อนหลังประกอบด้วย

สำหรับกรณีที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งเปรียบเทียบปรับอดีตผู้บริหาร คือ นายจักรกฤษณ์ ธนวิรุฬห์ ซึ่งได้พ้นจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการและกรรมการบริหารของบริษัทไปตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. 58 และพ้นจากตำแหน่งกรรมการบริษัทไปตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.58 โดยเหตุการณ์การกระทำผิดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตตั้งแต่ปี 56 ซึ่งบริษัทมีการบันทึกบัญชีที่ไม่ถูกต้องจากการลงบัญชีในจำนวนเงิน 131 ล้านบาทในรายการรายได้ที่เป็นยอดขายสินค้าและการให้บริการ ซึ่งบริษัทเป็นเพียงนายหน้าตัวแทนของการซื้อขายสินค้าและการรับจ้างเหมาบริการให้แก่บริษัทแห่งหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการแก้ไขให้ถูกต้องไปแล้ว โดยปรับเป็นบันทึกจำนวนเงิน 101 ล้านบาทในรายการต้นทุนขายสินค้าและต้นทุนการให้บริการ และอีก 30 ล้านบาทบันทึกเป็นรายได้จากการเป็นตัวแทนของการซื้อขายสินค้าและการให้บร้การ เพื่อให้สะท้อนข้อเท็จจริง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับอดีตผู้บร้หาร ไม่เกี่ยวข้องกับตัวบริษัท และการปรับรายการบันทึกในงบการเงินบางส่วนนั้นไม่กระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัท

นายกษพล กล่าวว่า หลังจากเข้ามารับตำแหน่งกรรมการบริหาร BLISS ได้มีการศึกษาข้อมูลในอดีตที่หลากหลายมิติ โดยเฉพาะงบการเงินของบริษัท เพื่อให้แน่ใจว่ามีความถูกต้องตามมาตรฐานบัญชี ประกอบกับการเร่งปรับปรุงกระบวนการทำงานและควบคุมภายใน พร้อมกับการปรับเปลี่ยนทิศทางของธุรกิจหลักจากเดิมเป็นตัวแทนขายอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ มาเป็นผู้นำด้านการออกแบบและติดตั้งระบบสื่อสารและโทรคมนาคม(Telecom Solution) ธุรกิจระบบสารสนเทศ(IT) ธุรกิจซอฟท์แวร์และดิจิตอลมีเดีย (Software & Digital Media) และการขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบการสื่อสารและคมนาคม

ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจะมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากงานติดตั้งระบบการสื่อสารและโทรคมนาคมเพิ่มขึ้นเป็น 50% จากปีก่อนอยู่ที่ 30% สัดส่วนรายได้จากการขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบการสื่อสารและโทรคมนาคมเพิ่มเป็น 20% จากปีก่อนที่ 10% และสัดส่วนรายได้จากธุรกิจระบบสารสนเทศและการวายซอฟแวร์ลดลงเหลือ 30% จากปีก่อนที่ 60%

นายกษพล กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ไนปีนี้ทำสถิติสูงสุดที่ 1 พันล้านบาท หรือเติบโต 113% จากปี 57 ที่มีรายได้ 468.15 ล้านบาท โดยมาจากมูลค่างานในมือ(Backlog) การรับติดตั้งเสาเครือข่าย 3G ราว 400 ล้านบาท ประกอบกับการหางานใหม่อีก 600 ล้านบาทเข้ามาเพิ่ม ซึ่งบริษัทจะเข้าไปเสนองานติดตั้งเสาเครือข่ายให้กับลูกค้ารายใหม่เพิ่มเติม เช่น DTAC ซึ่งบริษัทมองแนวโน้มงานในการติดตั้งเสาเครือข่าย 3G จะมีปริมาณงานเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้บริการได้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศให้ได้มากที่สุด ประกอบกับหากการประมูล 4G ก็จะเป็นปัจจัยหนุนต่อปริมาณงานให้เพิ่มขึ้นอีก

ทั้งนี้ งานการติดตั้งเสาเครือข่ายนั้นการจ่ายเงินของลูกค้าจะต้องมีการรอรับเงินตามสัญญา โดยภาคเอกชนมีรอบการจ่ายเงินระยะเวลา 5 เดือน ส่วนภาครัฐจะมีระยะเวลานานถึง 1 ปี ซึ่งทำให้บริษัทได้มีการเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง(PP)ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาให้กับนักลงทุน 3 กลุ่ม ซึ่งมีกลุ่มของนายวิชัย ทองแตง เป็น 1 ในนั้น เพื่อระดมเงินทุนจำนวน 1.6 พันล้านบาท มีวัตถุประสงค์ใช้เป็นกระแสเงินสดเพื่อรองรับงานด้านต่างๆ

ในส่วนของภาระขาดทุนสะสม 178 ล้านบาทนั้น ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนงานว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยจะให้เป็นไปตามการเติบโตของบริษัท ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการขาย 2 บริษัทย่อยออกไปเพื่อเป็นการลดภาระ ประกอบกับ การขายธุรกิจตัวแทนขายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ให้กับ บริษัท ซีเอสซี จำกัด เมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้ในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังได้มองถึงการลงทุนในธุรกิจพลังงานในอนาคต ซึ่งจะเป็นรายได้เสริมและสร้างการเติบโตให้กับบริษัท โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษาในเบื้องต้นเท่านั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ