บลจ.กสิกรฯ ขายกอง K-ENERGY 7-13 พ.ค.ดักทำกำไรช่วงสั้นพ่วงรับผลตอบแทนยาว

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 30, 2015 15:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 7-13 พฤษภาคม 2558 บลจ.กสิกรไทย เตรียมเสนอขายกองทุนเปิดเค ดัชนีหุ้นธุรกิจพลังงาน (K-ENERGY) มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนีธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคโดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ และมีกลยุทธ์การบริหารกองทุนในเชิงรับ (Passive Fund) โดยมุ่งเน้นสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภคในตลาดหุ้นไทยมากที่สุด ซึ่งหุ้นในกลุ่มดังกล่าวประกอบด้วยหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ อาทิ ปตท.,ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม, โกลว์ พลังงาน,ไทยออยล์, ไออาร์พีซี เป็นต้น

กองทุนดังกล่าวเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงและความผันผวนจากการลงทุนได้ในระดับสูง และมีเวลาติดตามสถานการณ์การลงทุนได้ด้วยตนเอง เพื่อหาโอกาสจับจังหวะทำกำไรในระยะสั้นตามการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค โดยมีค่าธรรมเนียมการซื้อและการขายคืนหน่วยลงทุนที่ค่อนข้างต่ำ รวมถึงยังตอบสนองผู้ลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนในระยะยาวจากแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงานในอนาคตอีกด้วย

ปัจจุบันหุ้นในดัชนีธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค มีมูลค่าตลาดสูงเป็นอันดับ 2 ในดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้วยมูลค่าตลาดรวม 2.2 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 16 % รองจากหุ้นในกลุ่มธนาคารที่มีสัดส่วนประมาณ 17% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2558) โดยหุ้นในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค นับว่ามีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นปัจจัยพื้นฐานการผลิตที่สำคัญ อาทิ น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ไฟฟ้า หรือประปา ซึ่งมีความจำเป็นต่อการประกอบธุรกิจโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมซึ่งรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศในอนาคต นอกจากนี้หากพิจารณาในแง่ของราคาแล้วพบว่า ระดับราคาน้ำมันคาดว่าจะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น และมีความเสี่ยงในการปรับตัวในขาลงค่อนข้างจำกัด เนื่องจากระดับราคาได้ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากแล้วกว่า 50% จากในปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ คาดว่าราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะทยอยปรับเพิ่มขึ้นได้ในช่วงครึ่งปีหลัง อันเป็นผลจากการลดลงของอุปทานน้ำมัน ที่น่าจะเริ่มเห็นผลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หรือในปี 2559 รวมทั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจะมีส่วนช่วยสนับสนุนความต้องการใช้น้ำมันในระยะยาว นอกจากนี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย จะส่งผลดีต่อการใช้พลังงานและส่งผลบวกต่อการเติบโตของผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มนี้ โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในปี 2558 นี้ อยู่ที่ระดับ 40-60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

อย่างไรก็ตาม ในช่วงระยะสั้น ราคาน้ำมันอาจมีความผันผวนหรือปรับตัวลดลงบ้าง หลังจากที่มีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสให้ผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง และสามารถจับจังหวะการซื้อขายได้ด้วยตนเองตามแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันหรือดัชนีหุ้นในกลุ่มพลังงาน อาศัยเป็นจังหวะเข้าลงทุนในช่วงที่ดัชนีปรับตัวย่อลง เพื่อหาโอกาสทำกำไรระยะสั้นด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ