บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่าวานนี้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)ได้รายงานภาวะน้ำมันรายเดือนพ.ค. โดยมีการปรับคาดการณ์ปริมาณความต้องการต่อน้ำมันในปีนี้จะเพิ่มขึ้น 1.18 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดือน เม.ย. ว่าจะเพิ่ม 1.17 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งสูงกว่าความต้องการใช้น้ำมันปีที่แล้วที่เพิ่มขึ้น 0.96 ล้านบาร์เรล/วัน
เนื่องมาจากโอเปกมองว่าปริมาณความต้องการของกลุ่มประเทศโอเปก อเมริกาจะเพิ่มสูงขึ้น ในทิศทางเดียวกัน EIA ในรายงาน short-term energy outlook เมื่อวานนี้ที่คาดว่าปริมาณการใช้น้ำมันของโลกเฉลี่ยปีนี้จะอยู่ที่ 94.59 ล้านบาร์เรล/วัน (สูงกว่าคาดการณ์ก่อนหน้า 1.49 ล้านบาร์เรล) และได้ปรับเพิ่มราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯเฉลี่ย จาก 52.48 เป็น 54.32 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ทั้งนี้ มองว่าปัญหาผลผลิตน้ำมันเกินความต้องการน่าจะค่อยๆลดลง และความต้องการใช้น้ำมันและปริมาณผลิตจะกลับมาสู่สมดุลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 65.56 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และพบว่าราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบจากต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 54.68 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
เมื่อเทียบกับสมมติฐานของเอเซีย พลัสฯกำหนดราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยปีนี้ที่ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราคาน้ำมันดิบดูไปเฉลี่ยต้องอยู่ที่ 79 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในภาวะที่ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวทางฝ่ายวิจัยมองว่าน่าจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน เช่น PTT ที่ให้ราคาเหมาะสมที่ 402.5 บาท และ PTTEP ให้ราคาเหมาะสมที่ 140 บาท