ECF รุกตลาดใน-ตปท.ขยายทุกช่อง คาดยอดขาย Q2 เริ่มฟื้น มั่นใจทั้งปีโต12%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 14, 2015 12:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อีสต์โคสท์ เฟอร์นิเทค(ECF)เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้ารุกตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดในประเทศยังคงมีการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งบริษัทได้มีการขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ต่างๆ ผ่านทางโมเดิร์นเทรด ร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ โชว์รูม และช่องทางออนไลน์

ขณะที่ตลาดต่างประเทศแม้ไตรมาสที่ผ่านมาชะลอตัวจากกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น แต่บริษัทคงแผนการขยายฐานลูกค้า และเจรจาเงื่อนไขเพื่อเพิ่มปริมาณคำสั่งซื้อในกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีการส่งออกอยู่แล้ว อาทิ ลูกค้าในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งที่ผ่านมามีออเดอร์เพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจ ส่วนตลาดหลักในประเทศญี่ปุ่นแม้ยอดขายจะชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่บริษัทก็ได้มีการเข้าไปเจรจากับกลุ่มลูกค้าใหม่ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น

"ตลาดญี่ปุ่นและอเมริกาตอนนี้ยอดขายชะลอตัว แต่แถบตะวันออกกลางมีออเดอร์มากขึ้นอย่างมาก ซึ่งเห็นได้ชัดจากออเดอร์ลูกค้ากลุ่มนี้ เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ซึ่งหากเทียบจากไตรมาสเดียวกันกับปีที่แล้ว ยอดขายของกลุ่มลูกค้าตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว"นายอารักษ์กล่าว

นอกจากนี้บริษัทได้มีการจัดตั้งทีมดูแลตลาดกลุ่มประเทศในเขตเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งภายในปีนี้มีแผนจะเพิ่มยอดขายใน AEC ให้มีสัดส่วนอยู่ที่ 10% ของยอดขายรวม โดยล่าสุดบริษัทเพิ่งได้รับออร์เดอร์จากลูกค้าในประเทศมาเลเซีย และเตรียมที่จะส่งสินค้าออกไปในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้ จากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้เข้าไปขยายตลาดในประทศอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์มาแล้ว

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/58 มีกำไรลดลงในขณะที่ยังสามารถรักษามูลค่ารายได้จากการขายได้ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมี รายได้รวม 336.39 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 334.82 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 17.66 ล้านบาทลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 22.60 ล้านบาท สาเหตุมาจากบริษัทได้กระตุ้นยอดขายด้วยการลดราคาสินค้าลง เพื่อพยายามรักษาระดับยอดขายให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเร่งยอดขายและระบายสต็อกสินค้าที่มีอยู่ออก โดยได้วางแผนที่จะพัฒนาและปรับปรุงรูปแบบสินค้าเพื่อกำหนดราคาขายใหม่ ซึ่งผลจากการลดราคาสินค้าส่งผลให้บริษัท มีอัตรากำไรสุทธิที่ลดลงจากเดิม

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลประกอบการจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2/58 เป็นต้นไป หลังจากเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของกำลังซื้อจากต่างประเทศโดยเฉพาะญี่ปุ่น ที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ที่ผ่านมาดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าผลประกอบการปี 58 จะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า12% ตามเป้าหมายที่วางไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ