(เพิ่มเติม) TICON เผยบ.ร่วมทุนอินโดฯ ตั้งเป้ามีพื้นที่คลังสินค้า-รง.ในเทคโนปาร์คกว่า 1 แสนตร.ม.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 19, 2015 14:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น (TICON) กล่าวว่า บริษัทได้ร่วมกับบริษัท พีที เซอร์ยา ซีเมสตา อินเตอร์นูซ่า ทีบีเค(SSIA) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของอินโดนีเซีย และบริษัท มิตซุย แอนด์ คัมปนี จากญี่ปุ่น ร่วมกันตั้งบริษัทร่วมทุนในอินโดนีเซีย ภายใต้ชื่อ PT SLP SURYA TICON INTERNUSA (SLP) ด้วยทุนจดทะเบียนขั้นต้น 46.4 ล้านเหรียญหสรัฐ หรือราว 1.5 พันล้านบาท โดย SSIA ถือหุ้นใหญ่ 50% ขณะที่ TICON และมิตซุยฯ ถือหุ้นฝ่ายละ 25% เพื่อเป็นผู้พัฒนาและบริหารจัดการคลังสินค้า และโรงงานเพื่อให้เช่าระดับสากลในประเทศอินโดนีเซีย

โดยโครงการนำร่องเฟสแรก ครอบคลุมคลังสินค้า 16 ยูนิต ขนาดพื้นที่อาคาร 2,160 ตารางเมตร (ตร.ม.)รวมพื้นที่ให้เช่าทั้งสิ้น 34,560 ตร.ม. ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการแล้วเสร็จ และมีผู้เช่าคลังสินค้าแล้วกว่า 81% โดย SLP วางแผนพัฒนาโครงการในระยะต่อไปในไตรมาส 3/58 ซึ่งเมื่อพัฒนาโครงการแล้วเสร็จ จะทำให้ SLP มีพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานให้เช่าภายในโครงการเทคโนปาร์ค (Technopark) รวม 146,195 ตร.ม.

ทั้งนี้ ในส่วนของ TICON ซึ่งถือหุ้น 25% จะใส่เงินลงทุนเบื้องต้น 400 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมองหาซื้อที่ดิน (แลนด์แบงก์) แห่งที่ 2 ในอินโดนีเซียเพื่อพัฒนาเฟสต่อไปในอนาคต

บริษัทได้ปรับลดเป้ารายได้รวมปีนี้เหลือโต 5% จากเดิมตั้งเป้าว่าจะเติบโต 10% เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศชะลอ อุตสาหกรรมด้านโรงงานชะลอตัว อย่างไรก็ตามโปรเจกต์ที่เป็นพื้นที่ปล่อยเช่าใหม่แบบคลังสินค้าที่สร้างตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-suit) ได้รับความนิยมมากขึ้น แต่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าคลังสินค้าแบบสร้างสำเร็จ (Ready-built) แต่ความต้องการคลังสินค้าแบบ Ready-built จะโตน้อยกว่า โดยทั้งปีมองว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่เช่าที่ 2.5 แสนตร.ม.ได้ จากปัจจุบันทำได้แล้ว 7-8 หมื่นตร.ม.

"ปี 58 รายได้รวมน่าจะโต 5% มาจากค่าเช่า เงินปันผลที่จะได้เพิ่มขึ้นเพราะเรามีการลงทุนในกอง REIT ค่าบริหารกอง REIT บริหารกองทุนอสังหาริมทรัพย์ มีการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน แต่ไตรมาส 1/58 ที่กำไรลดลงจากไตรมาส 1/57 เพราะมีรายได้จากค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นก็จริง แต่ไม่มีขายเข้ากองทุนเลย ขณะที่ไตรมาส 1/57 มีขายเข้ากองเกือบ 500 ล้านบาท และพอเราพัฒนา Built-to-suit มากขึ้น มาร์จินจะลดลงเพราะไซด์ใหญ่มากขึ้น"นายวีรพันธ์ กล่าว

นายวีรพันธ์ กล่าวว่า ส่วนแนวโน้มรายได้ในไตรมาส 2/58 คาดว่าจะสูงกว่าไตรมาส 1/58 เนื่องจากผ่านไป 2 เดือนแรกของไตรมาส 2 แนวโน้มดีขึ้น และเวลาที่เหลืออีก 1 เดือนก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเพราะคลังสินค้าให้เช่าดีขึ้น ตลอดจนมีคนเข้ามาลงทุนโรงงานในไทยค่อยๆเพิ่มขึ้นด้วย

สำหรับการลงทุนในต่างประเทศหลังจากที่ได้เข้าไปลงทุนในอินโดนีเซียแล้ว ก็มองประเทศเพื่อนบ้านด้วย เช่น พม่า เวียดนาม แต่ปีนี้คงยังไม่เห็นเพราะอยากจะลงทุนในอินโดนีเซียให้เห็นภาพชัดเจนมีรายได้เข้ามาก่อน ที่มองพม่าและเวียดนามเพราะมีประชากรจำนวนมาก เราดูที่ประชากรเป็นหลัก โดยที่พม่ามองแถวใกล้ๆ ย่างกุ้ง โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้จากต่างประเทศในอีก 5 ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 25% ของรายได้รวม จากปีนี้ที่จะรับรู้น้อยมาก โดยรายได้จากอินโดนีเซียจะเริ่มรับรู้ในไตรมาส 3/58 เป็นต้นไป ขณะที่อุตสาหกรรมคลังสินค้าในอินโดนีเซียน่าจะเติบโตเหมือนของไทยราว 2 แสนตร.ม./ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ