CKP-W1 ปิดเทรดวันแรกที่ 0.52 บาท มูลค่าซื้อขาย 476.08 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.58 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.73 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.49 บาท
ขณะที่หุ้น CKP ปิดที่ 2.92 บาท ลดลง 0.06 บาท (-2.01%)มูลค่าซื้อขาย 50.94 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 2.98 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.98 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 2.92 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.ซีเค พาวเวอร์(CKP)ใช้ชื่อย่อว่า CKP-W1 คาดว่าจะมี All-in Premium +119.39% โดยสาเหตุที่ All-in Premium สูงนั้นมาจากสถานะของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ Out of-The-Money มากและอายุที่ยาวถึง 4 ปี โดยเมื่อเทียบกับ CKP ตัวแม่แล้ว มองว่า CKP มีความน่าสนใจในการลงทุนมากกว่า แต่หากเก็งกำไรในระยะสั้น CKP-W1 จะเหมาะกว่าจาก Gearing ที่สูงถึง 5.5 เท่า
จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมด้วยวิธี BSM อ้างอิงราคาปิดหุ้นแม่ที่ 2.98 บาท (8 มิ.ย.) จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ CKP-W1 ที่ 0.54 บาท พร้อมให้กรอบมูลค่าของ CKP-W1 ไว้ที่ 0.505-0.586 บาท เมื่อราคาหุ้น CKP เคลื่อนไหวในกรอบ 2.90-3.10 บาท โดยมี Volatility 42% per year
CKP ประกอบธุรกิจก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้างครบวงจร ที่มีความชำนาญในงานก่อสร้างทุกประเภท มีความพร้อมที่จะสร้างโครงการขนาดใหญ่ หรือใช้เทคนิคขั้นสูง และขยายธุรกิจรับเหมาก่อสร้างไปต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย
CKP-W1 จำนวนที่ออก 1,870 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ซื้อหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 3 : 1 : 1 ที่ราคา 3 บาท( 3 หุ้นเดิมได้รับสิทธิซื้อ 1 หุ้นใหม่ และ 1 หุ้นใหม่ได้ 1 CKP-W1 ขึ้น XRW 23 เม.ย. 2015) อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 6.00 บาท, อายุ 5 ปี กำหนดใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน มี.ค., มิ.ย., ก.ย. และ ธ.ค. (โดยใช้สิทธิได้ครั้งแรกคือวันที่ 30 ก.ย. 2015 และใช้สิทธิได้ครั้งสุดท้ายในวันหมดอายุคือวันที่ 28 พ.ค. 2020)