SMM-W3 ปิดเทรดวันแรกที่ 0.72 บาท มูลค่าซื้อขาย 47.00 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.82 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.96 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.69 บาท
ขณะที่หุ้น SMM ปิดที่ 1.95 บาท ลดลง 0.02 บาท (-1.02%)มูลค่าซื้อขาย 3.01 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1.97 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 2.04 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.95 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย(SMM)ใช้ชื่อย่อว่า SMM-W3 คาดว่าจะมี All-in Premium +10.88% แม้จะมีสถานะของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ In-The-Money และมีผลของ Dilution Effect 20% แต่ด้วยความผันผวนที่ค่อนไปทางสูง (63.51% ต่อปี) จึงทำให้มี All-in Premium เป็นบวก โดยเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นแม่แล้ว เรามองว่า SMM-W3 มีความน่าสนใจมากกว่าหุ้นแม่เนื่องจาก Gearing ที่ 3 เท่าและความยืดหยุ่นในการใช้สิทธิที่สามารถใช้ได้ทุกวันที่ 25 ของทุกเดือนจนครบกำหนดอายุ
จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมด้วยวิธี BSM อ้างอิงราคาปิดหุ้นแม่ที่ 1.97 บาท (8 มิ.ย.) จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ SMM-W3 ที่ 0.68 บาท พร้อมให้กรอบมูลค่าของ SMM-W3 ไว้ที่ 0.651-0.717 บาท เมื่อราคาหุ้น SMM เคลื่อนไหวในกรอบ 1.92-2.02 บาท โดยมี Volatility 64% per year
SMM แบ่งธุรกิจได้เป็น 8 ประเภทคือ 1. ผลิตและจัดจำหน่ายหนังสือการ์ตูน พ็อคเก็ตบุ๊ค นวนิยายจีน รวมถึงนิตยสารต่างๆ 2. ผลิตรายการวิทยุกีฬา 24 ชั่วโมง "สปอร์ตเรดิโอ" 3. ผลิตรายการโทรทัศน์ดาวเทียมกีฬา 24 ชั่วโมง "SMMTV" 4. ร้านค้าปลีกจำหน่ายหนังสือ ภายใต้สื่อ "SMM Book Fridnd" 5. รับจ้างผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ 6. ขายโฆษณาสื่อสิ่งพิมพ์, สื่อวิทยุ, สื่อโทรทัศน์ดาวเทียม และสื่อเว๊ปไซต์ 7. จัดกิจกรรมกีฬาและสันทนาการ 8. ให้เช่าพื้นที่สำนักงานและอื่นๆ
SMM-W3 จำนวนที่ออก 72.23 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 4 : 1 (ขึ้น XW 12 พ.ค. 2015) อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 1.50 บาท, อายุ 1.48 ปี กำหนดใช้สิทธิได้ทุกวันที่ 25 ของทุกเดือน (โดยใช้สิทธิได้ครั้งแรกคือวันที่ 25 มิ.ย. 2015 และใช้สิทธิได้ครั้งสุดท้ายในวันหมดอายุคือวันที่ 25 พ.ย. 2016)