นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่แดนบวก ภายหลังจากมีข่าวว่าทางเยอรมนีอาจยอมรับเงื่อนไขอย่างน้อย 1 ข้อในแผนปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซ และราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นน่าจะเป็นแรงหนุนให้กับหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในวันที่ 16-17 มิ.ย.นี้ โดยให้จับตาดูคำแถลงของประธานเฟดว่าจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยช่วงเวลาใด
พร้อมให้แนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,515-1,520 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(10 มิ.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,000.40 จุด พุ่งขึ้น 236.36 จุด(+1.33%),ดัชนี
NASDAQ ปิดที่ 5,076.69 จุด เพิ่มขึ้น 62.82 จุด(+1.25%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,105.20 จุด เพิ่มขึ้น 25.05 จุด(+1.20%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 137.25 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.60 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 250.51 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 32.49 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 13.75 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.53 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 9.14 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(10 มิ.ย.58)1,504.04 จุด เพิ่มขึ้น 11.72 จุด (+0.79%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,200.07 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(10 มิ.ย.58) ปิดที่ 61.43 ดอลลาร์/
บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.29 ดอลลาร์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(10 มิ.ย.58)ที่ 8.04 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.60/64 แข็งค่าต่อหลังกนง.คงดบ. รอดูยอดค้าปลีกสหรัฐฯ คืนนี้
- มูดี้ส์เตือนความขัดแย้งทางการเมือง-หนี้ครัวเรือนเป็นปัจจัยเสี่ยง ฉุดปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยอ่อนแอ แต่ยังมั่นใจฐานะการเงินการคลังภาครัฐเชื่อเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 3% อานิสงส์การ "ใช้จ่าย-ลงทุน" ขณะภาคเอกชนมีผลประกอบการแข็งแกร่ง หลังต้นทุนราคาน้ำมันลด เชื่อไทยยังน่าลงทุนมากสุด ในกลุ่มอาเซียนหลังเปิดเออีซี
- มติ"กนง."เอกฉันท์คงดอกเบี้ย 1.5% รอดูผลการลดครั้งที่ผ่านมา เปิดช่องลดดอกเบี้ยเพิ่ม หากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า ลั่นนโยบายยังให้น้ำหนักการเติบโตเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ยอมรับการส่งผ่านครั้งที่ผ่านมาไปยังดอกเบี้ยแบงก์น้อยกว่าคาด ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น ห่วงเศรษฐกิจจีนและเอเชียฉุดส่งออกต่ำคาด มั่นใจไร้ภาวะเงินฝืด
- คณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ เป็นประธาน พิจารณาเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ปฏิรูปการท่องเที่ยวปี 2558-2560 วางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้เพิ่มจาก 2.2 ล้านล้านบาท เป็น 2.5 ล้านล้านบาท โดยจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาก่อนสิ้นเดือนนี้
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ บล.โนมูระ พัฒนสิน เตรียมเดินสายโรดโชว์เชิญชวนนักลงทุนญี่ปุ่นเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทยต้นเดือน ก.ค. นี้ หลัง ก.ล.ต.อนุมัติออกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- PTTGC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 70 บาท คาดหุ้นกลุ่มพลังงานจะตอบรับเชิงบวกหลังราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ US$60.00/barrel อีกครั้ง เนื่องจาก EIA ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันปี 58 ของสหรัฐฯขึ้น และทิศทางผลงาน 2Q58 โดดเด่น คาดกำไรสุทธิจะเติบโตทั้ง yoy และ qoq จากค่าการกลั่นทรงตัวในระดับสูง-จะมีกำไรจากสต็อกน้ำมันหลังราคาน้ำมันดิบดูไบ +17% QTD ใน 2Q58 และส่วนต่างราคาโอเลฟินส์ปรับตัวขึ้น qoq จากการปิดโรงงานซ่อมบำรุงในภูมิภาค พร้อมคาดปี 58 เติบโต +88.7% yoy เป็น 28,376 ล้านบาท และ Valuation ยังไม่แพง
- TPIPL(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 3.40 บาท คาดราคาหุ้นมีแนวโน้มดีดกลับได้จากปัจจัยบวกรออยู่คือการเพิ่มเข้า SET50 ที่จะประกาศที่ 15-16 มิ.ย.พร้อมคงมุมมองเชิงบวกต่อ 2H58 คาดโดดเด่นมากเมื่อเทียบกับ 1H58 จากธุรกิจปูนซีเมนต์มีทิศทางขยายตัวสูงจากโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐฯ และจะเริ่มรับรู้ฯโรงไฟฟ้าขยะอีก 55MW
- CFRESH(บัวหลวง)"ซื้อ"ราคาผ่านจุดต่ำสุด และจากนี้ไปจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยกำไร 2Q15 คาดโต QoQ จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล และคาดมีกำไรอัตราแลกเปลี่ยนหนุน แนวโน้ม 2H15 คาดอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นตามต้นทุนกุ้งถูกลง และหนุนด้วยยอดขายที่ดีขึ้นต่อเนื่องตามฤดูกาล บริษัทลูกในเบลิสอาจพลิกมีกำไรได้จากรอบการออกของผลผลิตกุ้งตั้งแต่ ก.ค.เป็นต้นไป ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายใกล้กับช่วงที่บริษัทเคยขาดทุนในปี 2013
- MEGA(ฟิลลิป)"ซื้อ"เป้า 21.4 บาท มุมมองบวกต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมยาและโอกาสจากการขยายการลงทุนในอนาคต รวมถึงฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ปรับกำไรปี 58 เพิ่มขึ้นจากเดิม 7.2% อยู่ที่ 711 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 29.8% y-y มาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น 8.6% y-y มาที่ 8,391.8 ล้านบาท จากทั้ง 3 ธุรกิจหลัก โดยเฉพาะ Mega We Care ที่คาดโตสูงถึง 13.2% y-y ทำให้บริษัทมีอัตราการทำกำไรขั้นต้นดีขึ้นมาที่ 41.6% (+1.3% y-y)