BTS คาดรายได้เดินรถงวดปี58/59 โต 6-8%โตตามผู้โดยสาร Q1/58-59 กำไรพีค

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 11, 2015 16:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) คาดว่าไตรมาส 1/58-59(เม.ย.-มิ.ย.58) จะเป็นไตรมาสที่มีกำไรสูงสุด เนื่องจากรับรู้กำไรพิเศษจากขายสินทรัพย์มูลค่า 2-3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการขายที่ดิน และโรงแรมอีสตินเพื่อแลกกับการเข้าถือหุ้น บมจ.ยู ซิตี้(U) เป็นจำนวน 35.64%

สำหรับงวดปีนี้บริษัทตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารเติบโต 4-6% จากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 600,000 เที่ยวคนต่อวัน เนื่องจากการเติบโตของโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เกิดขึ้นรอบแนวรถไฟฟ้ามีมากขึ้น และผู้โดยสารก็เพิ่มจำนวนเที่ยวในการเดินทางมากขึ้นจากเดิมวันละ 2 เที่ยวเพิ่มเป็น 4 เที่ยวต่อวัน

ส่วนอัตราค่าโดยสารเฉลี่ยปีนี้ตั้งเป้าหมายเติบโต 2% โดยมาจากการปรับโปรโมชั่นอัตราค่าโดยสารประเภท 30 วัน ทางด้านรายได้จากการให้บริการเดินรถตั้งเป้าเติบโต 3% หลังคาดการณ์ว่าบริษัทจะได้เดินรถสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ทั้งนี้ จากปัจจัยสนับสนุนข้างต้นบริษัทคาดว่ารายได้ของกลุ่มธุรกิจรถไฟฟ้าบีทีเอสจะเติบโต 6-8%

นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าเพิ่มบัตรแรบบิทเป็น 5 ล้านใบจากปัจจุบันอยู่ที่ 3.5 ล้านใบ ซึ่งจะเพิ่มไปกับพันธมิตรรายใหม่มากขึ้นอย่างเช่น บิ๊กซี และ โลตัส

ด้านงบลงทุนปีนี้บริษัทตั้งไว้ที่ 1.91 พันล้านบาทจากปีก่อนที่เคยตั้งงบลงทุนที่ 3-4 พันล้านบาท เนื่องจากปีนี้ไม่มีการซื้อหัวรถไฟฟ้า และ ไม่มีการลงทุนใหม่ๆ เพิ่ม ซึ่งทำให้งบลงทุนปีนี้ไม่มากเท่ากับปีก่อน โดยเน้นลงทุนอสังหาริมทรัพย์ถึง 1.22 พันล้านบาท ด้านบริการ 305 ล้านบาท มีเดีย 270 ล้านบาท รถไฟฟ้า 105 ล้านบาท และธุรกิจในเครืออีก 10 ล้านบาท

นายสุรยุทธ กล่าวว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทจะเปิดโครงการใหม่ร่วมกับพันธมิตร คือ บมจ.แสนสิริ(SIRI) อีก 1 โครงการ มูลค่าโครงการประมาณ 5-6 พันล้านบาท ทำเลตามแนวรถไฟฟ้า BTS หลังจากเปิดโครงการแรก คือ “เดอะ ไลน์ จตุจักร-หมอชิต"(THE LINE JATUJAK-MOCHIT)ที่คาดว่าจะสร้างเสร็จและทยอยโอนในปี 61

ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้ในปัจจุบันของบริษัทแบ่งเป็น รายได้จากรถไฟฟ้าบีทีเอส 30% มีเดีย 40% อสังหาริมทรัพย์ 15-20% และธุรกิจอื่นๆไม่ถึง 10%

“ผลการดำเนินงานปีนี้อาจจะยังไม่ใกล้เคียงปี 56 เพราะยังไม่มีโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ๆเกิดขึ้น แต่ทางภาครัฐเริ่มทยอยลงทุน ซึ่งจะเห็นในช่วงครึ่งปีหลัง เรามองแนวโน้มว่ามีโอกาส และ ความพร้อมที่จะเข้าไปลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายอื่นๆในอนาคตถ้าหากโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ๆเปิดให้บริการเดินรถอย่างเต็มรูปแบบก็อาจจะทำให้ผลการดำเนินงานใกล้เคียงกับปี 56 ซึ่งจะต้องใช้เวลา 3-5 ปี"นายสุรยุทธ กล่าว

บริษัทคาดว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จะมีข้อสรุปการรับสัมปทานเดินรถภายในเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงคมมนาคม ซึ่งบริษัทมีความพร้อมหากได้รับสัมปทานในครั้งนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ