GRAND ตั้งเป้าปี 58 รายได้ 1.7-2 พันลบ.,คาดยังคงสภาพเป็น บจ.ในตลาดหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 17, 2015 15:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนพดล มิ่งจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมปีนี้ที่ 1,700-2,000 ล้านบาท โดยจะมาจากการรับรู้ค่าเช่าโรงแรมราว 1,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการอสังหาริมทรัพย์ราว 700-1,000 ล้านบาท จากยอดขายรอโอน (Backlog) ที่มีอยู่ในปัจจุบันประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ทั้งหมดได้ภายในปีนี้

พร้อมจะรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม หวังเพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ให้มากขึ้นจากปัจจุบันที่มีรายได้หลักจากธุรกิจโรงแรม ขณะที่คาดจะยังคงสภาพเป็นบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ต่อไปภายหลังการเข้าทำคำเสนอซื้อของบมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค(PF)แล้วเสร็จ

"เรามองเป้าหมายธุรกิจว่าจะทำอย่างไรให้รายได้อสังหาริมทรัพย์เติบโตดีต่อเนื่องในทุกๆ ปี โดยเราก็เริ่มหันมาเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมและมองโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย เพื่อผลักดันให้สัดส่วนรายได้จากอสังหาริมทรัพย์เป็น 40% จากปัจจุบันมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก" นายนพดล กล่าว

นายนพดล กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายปีนี้ที่ระดับ 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากยอดขายในโครงการ HYDE Sukhumvit 13 และล่าสุดจะเปิดโครงการคอนโด ระดับไฮเอนด์ HYDE Sukhumvit 11 มูลค่า 4,000 ล้านบาท ในวันที่ 26-28 มิ.ย.นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เริ่มพรีเซลล์ครั้งแรกไปเมื่อวัน 28 มี.ค.58 และมียอดจองแล้ว 40%

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างมองหาโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายและก่อสร้างที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 59 ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้เข้ามาทันทีจำนวน 1 โครงการ โดยจะเห็นความชัดเจนได้ภายในปีนี้ ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อกิจการโรงแรมริมทะเลระดับ 4 ดาวเพิ่มเติมอีก 1 แห่ง มองทำเลใน จ.ภูเก็ต, พัทยา และกระบี่ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้เช่นกัน

ทั้งนี้ บริษัทคาดหวังว่าในอนาคตสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มเป็น 40% และธุรกิจโรงแรมจะลดลงมาที่ 60% จากปัจจุบันที่สัดสวนรายได้ราว 90% มาจากธุรกิจโรงแรม โดยบริษัทมองว่าภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะฟื้นตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลดีต่อกำลังซื้อภาคประชาชนในระดับบนให้มีการออกมาซื้อสินค้ามากขึ้น และน่าจะส่งผลดีต่อตลาดระดับไฮเอนด์ แต่ตลาดระดับล่างยังคงทรงตัว เพราะธนาคารพาณิชย์มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากพอสมควร

นายนพดล กล่าวว่า ส่วนการที่ PF ได้ทำคำเสนอซื้อของบริษัทนั้นเชื่อว่าผู้ถือหุ้นเดิมจะไม่ขายหุ้นออกมาในการทำคำเสนอซื้อครั้งนี้ เนื่องจากราคาหุ้นที่เสนอซื้ออยู่ที่ระดับ 1.29 บาท ต่ำกว่าราคาตลาดที่อยู่ระดับ 1.46 บาท อย่างไรก็ตามหลังจากการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์เสร็จสิ้นแล้วคาดว่าหุ้น GRAND จะยังคงเป็นบจ.ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ต่อไป แต่หุ้นของบมจ.ไทยพร็อพเพอร์ตี้ (TPROP) น่าจะออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ

อนึ่ง PF ได้ประกาศแผนซื้อกิจการ TPROP และ GRAND โดยการเข้าซื้อกิจการ TPROP ทำให้ PF เข้าไปมีอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญโดยอ้อม (Chain Principle) ใน GRAND ส่งผลให้ PF มีหน้าที่เข้าทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ GRAND ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ