(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดเอเชีย วิตกกรีซอาจผิดนัดชำระหนี้

อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทย อาจจะได้รับผลดีจากการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี(Window Dressing) ที่จะเข้ามาช่วยประคองดัชนีฯไว้ โดยแนะนำว่าให้ทยอยสะสมหุ้นต่อ เพราะเชื่อว่าสถานการณ์ของกรีซเป็นผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น และคาดว่าดัชนีจะกลับมาดีขึ้นในเดือนก.ค. พร้อมให้แนวรับแรกที่ 1,510 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,490-1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,525 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(26 มิ.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,946.68 จุด เพิ่มขึ้น 56.32 จุด(+0.31%),ดัชนี

• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 400.18 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 96.90 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 103.74 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 103.61 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 33.82 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 43.00 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.12 จุด
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(26 มิ.ย.58) 1,518.03 จุด ลดลง 1.44 จุด(-0.09%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 463.64 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.58
• ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(26 มิ.ย.58) ปิดที่ 59.63 ดอลลาร์/

• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(26 มิ.ย.58)ที่ 7.01 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 33.85/86 อ่อนค่าหลังกรีซไม่ประสบผลในการเจรจาหนี้
• "นายแบงก์" คาดเงินบาทครึ่งปีหลังมีแนวโน้มอ่อนค่าหลุด 34 บาทต่อดอลลาร์ จับตาทิศทางเฟดหากเปลี่ยนวิธีการ หวั่นสร้างความผันผวนในตลาด แต่กระทบเงินทุนไหล "เข้า-ออก" ไม่มาก เนื่องจากตลาดรับรู้ข่าวก่อนหน้าแล้ว ขณะที่ปัญหาแก้หนี้กรีซ มั่นใจกระทบเงินบาทไม่มากนัก
• "เศรษฐพุฒิ" เชื่อเศรษฐกิจไทยรับมือปัญหากรีซได้เหตุพื้นฐานยังแกร่ง หนี้ต่างประเทศน้อย ทุนสำรองฯ สูง "กรีซ" ส่อเค้าหลุดยูโรโซน ขณะที่ ยุโรปไม่เล่นเกมลงประชามติกรีซ เมินต่ออายุข้อตกลงสิ้นเดือนนี้ "ประชาชน" แห่ถอนเงิน หวั่นรัฐบาลใช้มาตรการคุมเงินทุน "อีซีบี" ประชุมนัดใหม่ เล็งช่วยแบงก์กรีซเพิ่ม เยอรมนียันพร้อมสกัดวิกฤติไม่ให้ลุกลามไปทั่วยูโรโซน
• นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยถึงกรณีภัยแล้ง ที่รัฐบาลคาดฝนจะมาเดือน ส.ค. แต่นักวิชาการมองอาจยาวไปตกเดือน พ.ย. ว่า หากฝนทิ้งช่วงยาวไปตกเกือบปลายปี เศรษฐกิจไทยคงเข้าสู่ภาวะเงินฝืดแน่
• สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยคาดดัชนีหุ้นไทยครึ่งปีหลัง รอปัจจัยใหม่หนุนหวั่นปัญหาภัยแล้งกดดันกำลังซื้อกระทบเศรษฐกิจ ขณะที่กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย แนะนักลงทุนดูการเติบโตของหุ้นมากกว่าค่าพีอี ด้านตลาดหลักทรัพย์มอง เป็นโอกาสซื้อหุ้นเน้นปัจจัยพื้นฐาน ชี้ บจ.ไทยขยายฐานรายได้ต่างประเทศเพิ่มขึ้น
• แหล่งข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้มากที่สินเชื่อในครึ่งปีหลังจะไม่สามารถขยายตัวได้อย่างที่คาด ทำให้สินเชื่อทั้งปีโตไม่ถึง 7% อย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ เพราะต้องยอมรับว่าความเสี่ยงจะเกิดหนี้เสีย รวมถึงมีปัจจัยลบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ ธปท.จะขอติดตามข้อมูลการปล่อยสินเชื่อไปอีกสักระยะก่อน

*หุ้นเด่นวันนี้

• HPT บมจ.โฮม พอตเทอรี่ เริ่มซื้อขายวันแรกในวันนี้ สังกัดตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีราคา IPO 1.00 บาท และราคาพาร์ 0.25 บาท

บมจ.โฮม พอตเทอรี่ ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องเคลือบดินเผาประเภทไฟน์ไชน่า (Fine china) เพื่อใช้บนโต๊ะอาหารและเป็นเครื่องใช้ในครัว มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานและแวววาว เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงแรมและร้านอาหารชั้นนำ HPT ผลิตสินค้าภายใต้ตราสินค้าของผู้สั่งผลิตและมีสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง ได้แก่ เพทาย (PE'TYE)และฮาร์ทแอทโฮม (Heart @ Home)

• RML-W4 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.ไรมอน แลนด์(RML)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 893,853,790 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.97 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปีหลังจากวันที่ออกคือ 15 มิถุนายน 2558 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ก.ย. 2558

• INTUCH(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 114 บาท เพื่อรับเงินปันผล โดยคาดการณ์เงินปันผล 1H58 หุ้นละ 2.20-2.30 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 3% โดยคาดว่าหุ้น Defensive จะเป็นที่พักเงินได้ดีภายใต้บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกที่ผันผวนในวันนี้ จากความกังวลว่ากรีซอาจผิดนัดชำระหนี้และส่งผลให้ต้องออกจากกลุ่ม EU หลังการเจรจาแผนปฎิรูปทางการเงินกับเจ้าหนี้ในวันเสาร์ที่ผ่านมาล้มเหลว และจะครบกำหนดชำระหนี้กับ IMF จำนวน 1.5 พันล้านยูโรในวันที่ 30 มิ.ย. และคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพระยะกลางของหุ้นกลุ่มสื่อสาร จากการประมูล 4G ในช่วงปลายปี ขณะที่ THCOM เข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุน และมีการเติบโตของกำไรที่สูง โดยคาดกว่ากำไรสุทธิปี 2558 จะเติบโต +25.7% yoy
• UNIQ(บัวหลวง) คาดราคาหุ้นจะ re-rate ขึ้นเทียบเคียงกับกลุ่มรับเหมาฯตัวใหญ่ เนื่องจากพื้นฐานของ UNIQ ในปัจจุบัน หากพิจารณาจาก backlog นั้น มีศักยภาพเทียบเคียงกับหุ้นในกลุ่มรับเหมาตัวใหญ่ที่ cover อยู่ นอกจากนี้ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีปัจจัยสนับสนุนการขึ้นของราคาหุ้นจากแนวโน้มกำไรที่จะเติบโตถึง 50%HoH และ 80%YoY จาก backlog ที่สูงถึง 33,000 ล้านบาท และมองว่า UNIQ จะสามารถเพิ่ม backlog เป็นเท่าตัวได้จากปีที่แล้ว เพราะว่าการประมูลงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐนั้นเข้าใกล้เข้ามาทุกที แม้บริษัทไม่ได้รับงานใหม่เพิ่มเติมในปีนี้ โดยกำไรที่ระมาณการอาจลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คาดกำไรในปีหน้าจะไม่น้อยกว่าปีนี้