ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดลบแค่ 6.84 จุด แรงซื้อกลับหนุนให้ลดช่วงลบจากภาคเช้าแม้ยังกังวลกรีซ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 29, 2015 17:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,511.19 จุด ลดลง 6.84 จุด(-0.45%) มูลค่าการซื้อขาย 39,263.73 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,516.93 จุด และทำระดับต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,495.86 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 219 หลักทรัพย์ ลดลง 674 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 220 หลักทรัพย์

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้อ่อนตัวลง แต่จะเห็นได้ว่าในช่วงบ่ายมีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้ลดช่วงลบลงไปได้ จากตอนแรกที่ติดลบ 1% ซึ่งหากไปมองนักลงทุนต่างชาติจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาได้ขายสุทธิอย่างต่อเนื่อง และได้ขายหุ้นไทยออกไปมากแล้ว ทำให้มีเหลือ Position ในตลาดหุ้นไทยไม่มากแล้ว แต่พวกที่ถือหุ้นไทยอยู่เป็นนักลงทุนรายย่อย และสถาบันในประเทศ ที่ถือหุ้นไทยอยู่ค่อนข้างมาก ซึ่งถ้าสถาบันในประเทศไม่ Panic Sell ตลาดฯก็จะไม่อ่อนตัวลงแรงมาก ดังนั้นตอนนี้คงจะต้องจับตาที่แรงขายของสถาบันในประเทศเป็นหลัก

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า โดยเฉพาะตลาดขนาดใหญ่จะปรับตัวลงมากราว 2-3% แต่ Emerging Market จะปรับตัวลงน้อยกว่าตลาดใหญ่ เพราะที่ผ่านมาต่างชาติได้ Underweight ใน Emerging Market อยู่แล้ว ทั้งนี้เป็นผลจากมีความกังวลเรื่องกรีซ

ถ้ามองในแง่ผลกระทบต่อไทยจะไม่แรงมาก แต่ของโลกจะต้องจับตาดูให้ดี เพราะเรื่องของกรีซเชื่อว่าจะมีผลกระทบต่อ Fund Flow อยู่บ้าง ซึ่งที่ผ่านมานักลงทุนก็มีการปรับพอร์ตเรื่อย ๆ และเจ้าหนี้รายใหญ่ของกรีซก็เป็น IMF, ECB คิดว่าถ้ากรีซผิดนัดชำระหนี้ก็จะส่งผลกระทบแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะหนี้ของกรีซไม่ได้ใหญ่มาก และทางเจ้าหนี้ก็คงจะมีการตั้งสำรองฯไว้แล้ว อีกทั้งกระแสข่าวล่าสุดก็ว่า กรีซกับเจ้าหนี้ยังพอที่จะเจรจากันต่อได้ อย่างไรก็ดีให้ติดตามดูต่อไป

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(30 มิ.ย.)น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซต์เวย์ แต่ก็ขึ้นกับกระแสข่าวของกรีซที่ออกมาด้วย ซึ่งจะต้องติดตามดู ส่วนเศรษฐกิจไทยก็ดูจะยังไม่ค่อยดีเท่าไร ล่าสุดตัวเลขส่งออกก็ต่ำกว่าคาด ช่วงที่เหลือของปีนี้คงจะต้องให้รัฐฯเร่งจับจ่ายการลงทุนให้มากขึ้น

พร้อมให้แนวรับ 1,510-1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520-1,530 จุด โดยมีจุดฟิวเตอร์ที่ 1,510 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,035.86 ล้านบาท ปิดที่ 195.50 บาท ลดลง 4.50 บาท

          PTT        มูลค่าการซื้อขาย  1,883.74 ล้านบาท ปิดที่  363.00 บาท ลดลง  1.00 บาท

TASCO มูลค่าการซื้อขาย 1,567.79 ล้านบาท ปิดที่ 22.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

          AOT        มูลค่าการซื้อขาย  1,475.48 ล้านบาท ปิดที่  304.00 บาท ลดลง  2.00 บาท
          JAS        มูลค่าการซื้อขาย  1,280.35 ล้านบาท ปิดที่    5.45 บาท ลดลง  0.05 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ