MPG-W1 ปิดเทรดวันแรกที่ 0.65 บาท มูลค่าซื้อขาย 42.59 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.90 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 0.92 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 0.62 บาท
ขณะที่หุ้น MPG ปิดที่ 1.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท(+0.65%) มูลค่าซื้อขาย 3.64 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 1.55 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1.56 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1.51 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. แมงป่อง 1989(MPG)ใช้ชื่อย่อ MPG-W1 คาดว่าจะมี All-in Premium +15.72% แม้ว่าจะมีสถานะที่ In The Money ก็ตาม เนื่องมาจากความผันผวนของ MPG ที่ค่อนข้างสูง (Volatility ราว 67%) และ MPG หุ้นแม่มีประวัติไม่จ่ายเงินปันผลมาอย่างยาวนาน โดยเมื่อเทียบกับหุ้นแม่มองว่า MPG-W1 ค่อนข้างมีความน่าสนใจเมื่อเทียบกับหุ้นแม่จาก Gearing ที่ 2 เท่า
จากการประเมินมูลค่าที่เหมาะสมด้วยวิธี BSM อ้างอิงราคาปิดหุ้นแม่ที่ 1.54 บาท (29 มิ.ย.) จะได้มูลค่าที่เหมาะสมของ MPG-W1 ที่ 0.78 บาท พร้อมให้กรอบมูลค่า MPG-W1 ไว้ที่ 0.74-0.82 บาท เมื่อราคาหุ้น MPG เคลื่อนไหวในกรอบ 1.49-1.59 บาท โดยมี Volatility 67% per year
MPG ประกอบธุรกิจหลัก 3 ประเภทได้แก่ 1) เป็นผู้จำหน่ายสินค้าเพื่อความบันเทิงภายในบ้านประเภทภาพยนตร์และเพลงโดยการขายปลีกในรูปแบบ ChainStore ภายใต้แบรนด์ “แมงป่อง" “Mangpong" จำนวน 30 สาขา 2) จำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์-เทคโนโลยีและมีเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสินค้าที่ตอบสนองกับรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการขายปลีกในรูปแบบ Chain Store ภายใต้แบรนด์ “GIZMAN" จำนวน 7 สาขา 3) จำหน่ายสินค้าเครื่องสำอางและเวชสำอางโดยการขายปลีกในรูปแบบ Chain Store ภายใต้แบรนด์ “STARDUST" จำนวน 1 สาขา
MPG-W1 จำนวนที่ออก 292.58 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 3 : 1 (ขึ้น XW 14 พ.ค. 2015) อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 1 บาท, อายุ 3 ปี กำหนดใช้สิทธิได้ทุกวันทำการสุดท้ายของเดือน พ.ค. และ พ.ย. (โดยใช้สิทธิได้ครั้งแรกคือวันที่ 30 พ.ย. 2015 และใช้สิทธิได้ครั้งสุดท้ายคือวันที่ 1 มิ.ย. 2018)