(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นตามตลาดภูมิภาคหลังกรีซยื่นแผนฯให้เจ้าหนี้แล้ว

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 10, 2015 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ที่อยู่ในแดนบวกในช่วงเช้านี้ เนื่องจากกรีซได้มีการยื่นเงื่อนไขการปฏิรูปเศรษฐกิจ และเงื่อนไขการขอความช่วยเหลือทางการเงินให้กับเจ้าหนี้แล้ว ทำให้การประชุมในสุดสัปดาห์นี้น่าจะเป็นที่พอใจของเจ้าหนี้มากขึ้น และก็น่าจะส่งผลบวกต่อตลาดฯมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ได้ดีดขึ้น ทำให้น่าจะส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานด้วย

อย่างไรก็ดี ตลาดยังมีแรงกดดันจาก Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่ยังขายสุทธิอยู่ โดยเมื่อวานนี้ก็ขายสุทธิออกมากว่า 3 พันล้านบาท และทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ก็ได้ปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(GDP) ของโลกลงเหลือ 3.3% จากเดิม 3.5%

พร้อมให้แนวรับ 1,465 จุด ส่วนแนวต้าน 1,480-1,485 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(9 ก.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,548.62 จุด เพิ่มขึ้น 33.20 จุด(+0.19%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,922.40 จุด เพิ่มขึ้น 12.64 จุด(+0.26%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,051.31 จุด เพิ่มขึ้น 4.63 จุด(+0.23%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 25.57 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 1.87 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 175.13 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.08 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.60 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 3.28 จุด

ขณะที่ตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันนี้ เนื่องจากอิทธิพลไต้ฝุ่นจันหอม

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(9 ก.ค.58) อยู่ที่ 1,472.57 จุด เพิ่มขึ้น 2.32 จุด (+0.16%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 3,732.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ก.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(9 ก.ค.58) ปิดที่ 52.78 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.13 ดอลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(9 ก.ค.58)ที่ 6.06 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.92 แข็งค่าหลังดอลล์อ่อน คาดหวังเชิงบวกหนี้กรีซ-คลายกังวลจีน
  • คลังเตรียมทำงบประมาณขาดดุลเพิ่มเป็น 4% หากวิกฤติตลาดหุ้นจีนส่งผลกระทบยาวถึงปี 2559 หวังใช้นโยบายคลังเป็นตัวขับเคลื่อน ด้านทางการจีนระดมออกมาตรการพยุงตลาดหุ้น ขณะนักวิเคราะห์ประเมินผลกระทบจำกัด จับตาประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสัปดาห์หน้า
  • แหล่งข่าวจากบริษัทให้บริการประมูลงานภาครัฐ เผย พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ที่เพิ่งผ่านคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ยังไม่ชัดเจนในหลายเรื่อง ซึ่งอาจจะกระทบต่อการประมูลของรัฐและทำให้การเบิกจ่ายงบล่าช้า เพราะเอกชนที่เกี่ยวข้องยังไม่เข้าใจเนื้อหาหลักของกฎหมายในการเข้าประมูลงานของรัฐ และยังไม่มีความรู้ในการประมูลในรูปแบบอีมาร์เก็ต และอีบิดดิ้ง
  • นายธรรมยศ ศรีช่วย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเปิดประมูลรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ด้วยวิธีการคัดเลือกโดยการแข่งขันทางด้านราคาในระบบ Feed in Tariff (FIT) ซึ่งกำหนดไว้ 800 เมกะวัตต์ เข้าระบบไฟฟ้าได้ภายในปี 2560
  • "ธนวรรธน์ พลวิชัย"ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจสถานการณ์ภัยแล้งจากเกษตรกรทั่วประเทศ 1,200 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-4 ก.ค. 2558 พบว่า ภัยแล้งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมแล้ว 6.81 หมื่นล้านบาทคิดเป็น 0.52% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ พื้นที่เพาะปลูกเสียหายแล้ว 10-12 ล้านไร่ จากพื้นที่เพาะปลูกทั่วประเทศ 61 ล้านไร่ ผลผลิตทางการเกษตรเสียหาย 4.6 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 3.56 หมื่นล้านบาท
  • ม.ร.ว.ปรีดิยาธร พอใจแบงก์ชาติดูแลค่าเงินไม่ผันผวนแม้แตะ 34 บาทต่อดอลลาร์ สั่งจับตาปัญหาหนี้กรีซกับตลาดหุ้นจีน เบื้องต้นไม่รุนแรงแต่ต้องเกาะติด โดยเฉพาะจีนที่ไทยเป็นคู่ค้าสำคัญ ลั่นไม่ห่วงตลาดหุ้นเพราะเงินยังไม่หนีไปไหน ส่วนการโยกเงินออกจากตลาดพันธบัตร สัดส่วนยังไม่มากเมื่อเทียบกับเงินสำรอง

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KBANK(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 221 บาท คาดว่าหุ้นหลักในกลุ่มธนาคารจะเป็นกลุ่มนำตลาดในวันนี้ หลังตลาดหุ้นจีนเริ่มฟื้นตัวส่งผลให้นักลงทุนหยุด Panic รวมทั้งแรงเก็งกำไรผลประชุมระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ต่อแผนช่วยเหลือทางการเงินในวันอาทิตย์นี้ และหุ้นกลุ่มธนาคารตอบรับปัจจัยลบทางเศรษฐกิจไปมากแล้ว จึงคาด Downside Risk ในระยะสั้นค่อนข้างจำกัด เพื่อรอดูผลประกอบการ 2Q58 ของกลุ่มธนาคารที่จะเริ่มรายงานตั้งแต่สัปดาห์หน้า โดยเชื่อว่ามุมมองที่ค่อนข้างระมัดระวังมากแล้วของ Consensus จะส่งผลให้โอกาสเกิด Negative Surprise เป็นไปได้น้อย
  • BCP (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 37 บาท คาดว่าผลประกอบการ 2Q58 จะเติบโตโดดเด่นที่ 1.7 พันล้านบาท เติบโต +35% yoy และ +63% qoq จากแรงหนุนของกำไรสต็อกน้ำมันใน 2Q58 และค่าการกลั่นที่ขยายตัว yoy และทรงตัว qoq ที่ US$8.8/barrel จุดเด่นของ BCP อยู่ที่ความมีเสถียรภาพของกำไร จึงมีความผันผวนน้อยกว่าโรงกลั่นอื่นที่ผลประกอบการจะสวิงมากจากธุรกิจปิโตรเคมี ขณะที่ BCP ไม่มีธุรกิจปิโตรเคมี และมีสัดส่วน EBITDA จากธุรกิจโซลาร์ฟาร์มสูงถึง 20-25% พร้อมคาดผลประกอบการปี 2558 เติบโต +572.6% yoy เป็น 4,786 ล้านบาท และมี Valuation น่าสนใจ
  • HMPRO(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อลงทุน"เป้า 9 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q15 ฟื้น +9% Q-Q จากการขยายพื้นที่เช่าและการเปิดบริการเต็มรูปแบบของสาขาสุวรรณภูมิเดือน พ.ค. แต่กำไรยังโตในระดับต่ำ 1.1% Y-Y เพราะค่าใช้จ่ายสูงขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่ แนวโน้ม 2H15 ดีขึ้นแต่ไม่สดใสจากกำลังซื้อที่ชะลอ เรายังคาดกำไรสุทธปีนี้ +3% Y-Y โตต่ำสุดนับตั้งแต่เข้าตลาดฯ และต่ำสุดในกลุ่ม แต่ราคาหุ้นปรับลง 24% จาก high ในปีนี้ (underperform เกือบที่สุดในกลุ่ม) สะท้อนไปแล้ว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ