“ราคาน้ำมันโลกทั้งสองตลาด ทั้ง WTI และ Brent ผันผวนอย่างรุนแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากอุปทานที่ยังล้นเกิน ประกอบกับนักลงทุนยังมีความกังวลเรื่องกรีซ และแรงเทขายจากตลาดหุ้นจีน ราคาน้ำมันจึงปรับฐานลงมาค่อนข้างมาก ซึ่งเรามองว่าระดับราคาน้ำมันที่ลดลงเข้าใกล้ 50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในช่วงนี้ จึงเป็นโอกาสในการทยอยสะสมเพิ่มเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีเมื่อราคาน้ำมันรีบาวน์ โดยเรามองเป้าหมายราคาน้ำมันในปีนี้ไว้ที่ 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล หรือยังมีอัพไซด์อีกราว 12%" นายสาห์รัช กล่าว
ทั้งนี้ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ทริกเกอร์ 8% #6" จะเน้นลงทุนในกองทุนน้ำมัน United States Oil Fund ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนสอดคล้องกับอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาสัญญาฟิวเจอร์ที่อ้างอิงกับน้ำมันดิบคุณภาพดี (WTI Light Sweet Crude Oil) ในตลาดไนเม็กซ์ (NYMEX) ในสหรัฐฯ และมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ประมาณ 90% ของมูลค่าทรัพย์สินที่ลงทุนในต่างประเทศ
“ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เราแนะนำให้ลูกค้าลงทุนในน้ำมันมาอย่างต่อเนื่อง และกองทริกเกอร์ฟันด์ในซีรีย์น้ำมันของเราก็สามารถสร้างผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงความเชี่ยวชาญในการลงทุนต่างประเทศและการจับจังหวะการลงทุนอย่างแม่นยำของเราได้เป็นอย่างดี"
กองทุนเปิด ทิสโก้ ออยล์ ทริกเกอร์ 8% #6 มีมูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท ผู้สนใจสามารถติดต่อ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000กด 4