(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นปัจจัยกรีซยังหนุน แต่อาจมีแรงขายทำกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 14, 2015 09:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ โดยปัจจัยบวกจากกรีซที่บรรลุข้อตกลงกับทางเจ้าหนี้จะยังคงมีอิทธิพลอยู่ต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศทั้งยูโรปและสหรัฐต่างปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ แต่ยังคงต้องระวังแรงขายทำกำไรบริเวณ 1,500 จุด หลังน่าจะยังมีคำถามถึงแนวทางปฏิบัติต่อไปของกรีซเพื่อดำเนินการให้บรรลุตามข้อตกลงกับเจ้าหนี้ ประกอบกับผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ของไทยในไตรมาส 2/58 มีแนวโน้มชะลอตัวลง และราคาน้ำมันดิบที่ลดลง จะเป็นปัจจัยกดดันต่อตลาด โดยมองแนวรับวันนี้ที่บริเวณ 1,480 และแนวต้านที่ 1,500 จุด

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยเปิดตลาดเช้านี้จะปรับตัวขึ้น หลังอิทธิพลของกรีซยังคงมีอยู่ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ แต่ก็ยังต้องระวังแรงขายทำกำไรที่บริเวณ 1,500 จุดขึ้นไป เพราะตลาดยังคงต้องรอดูแนวทางปฏิบัติของกรีซเพื่อให้เป็นไปตามข้อตกลงกับเจ้าหนี้

ประกอบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/58 ของบริษัทจดทะเบียนในไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเฉพาะในกลุ่มแบงก์แม้ว่าตลาดจะมีแรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์สะท้อนปัจจัยลบมาแล้วก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่เชื่อว่าก็จะยังเป็นปัจจัยที่จำกัดต่อการปรับขึ้นของหุ้นในกลุ่มแบงก์ได้ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงก็จะยังเป็นปัจจัยถ่วงตลาดเช่นกัน

พร้อมมองแนวรับวันนี้ที่บริเวณ 1,480 จุด และแนวต้านที่ 1,500 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(13 ก.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,977.68 จุด เพิ่มขึ้น 217.27 จุด(+1.22%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,071.51 จุด เพิ่มขึ้น 73.81 จุด(+1.48%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.60 จุด เพิ่มขึ้น 22.98 จุด(+1.11%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 265.56 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 12.02 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 27.66 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8.92 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 10.37 จุด ,ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 39.95 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.95 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(13 ก.ค.58) อยู่ที่ 1,490.65 จุด เพิ่มขึ้น 5.75 จุด(+0.39%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,114.12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 ก.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(13 ก.ค.58) ปิดที่ 52.2 ดอลลาร์/บาร์เรล ปรับตัวลง 54 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(13 ก.ค.58)ที่ 6.11 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 34.04/06 อ่อนค่าจากวานนี้ หลังกรีซบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้
  • นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้เสนอมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งให้พิจารณา โดยการจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 15 ไร่ หรือ 1.5 หมื่นบาท/ครัวเรือน เหมือนปี 2557 ซึ่งจะส่งให้นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง พิจารณาเป็นการเร่งด่วน ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า
  • คมนาคมเห็นชอบลงทุนรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพูเป็น โมโนเรล รูปแบบสัมปทาน PPP Net-Cost เบ็ดเสร็จ 100% จ่อชงครม.ใน ส.ค.นี้ คาดประมูล Q2/59 ส่วนสายสีส้มด้านตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) สั่ง รฟม.ประสานกลาโหมและตำรวจจัดทีมลงพื้นที่ทำความเข้าใจประชาชนย่านประชาสงเคราะห์ ยอมรับต้องติดตามกลุ่มเคลื่อนไหวคัดค้าน
  • รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงจะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันนี้ พิจารณาอนุมัติดำเนินโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์)รวม 3 เส้นทาง คือ สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร(กม.)วงเงิน 84,600 ล้านบาท สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม.วงเงิน 55,620 ล้านบาท ใช้เงินกู้ในประเทศ กระทรวงการคลังรับผิดชอบจัดหาแหล่งเงิน สายพัทยา-มาบตาพุด ระยะทาง 32 กม.วงเงิน 20,200 ล้านบาทใช้เงินจากกองทุนค่าธรรมเนียมผ่านทาง
  • กรมโยธาฯคาด พ.ร.บ.ผังเมืองใหม่ประกาศใช้ ก.ย.นี้ ไม่กำหนดอายุป้องกันสุญญากาศ เปิดช่องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อผลประโยชน์ เอกชนด้านอสังหาฯรอชง กรอ.เสนอตั้งองค์กรกลางด้านผังเมือง สังกัดสำนักนายกฯวางทั้งระบบ ชี้ยึดแนวถนนเชยทำ ต้นทุนบาน เพราะไม่สอดคล้องกับสภาพเป็นจริง ต้องยึดแนวรถไฟฟ้าเป็นตัวกำหนด
  • แบงก์ชี้อนุมัติเงินกู้ให้กรีซเป็นข่าวดี ทำให้สถานการณ์ชัดเจนขึ้น และอาจส่งผลให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น ขณะที่ค่าบาทมีแนวโน้มแข็งค่า จีดีพีขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3% แนะรัฐบาลออกมาตรการช่วยกระตุ้นกลุ่มรายได้ปานกลางใช้จ่ายเพิ่มแทนการท่องเที่ยว-ซื้อสินค้าในต่างประเทศ
  • นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า กรณีผลการประชุมกรีซที่ขอยืดเวลาออกไป 3 วัน มองว่าข้อสรุปที่จะได้คือ ผลเจรจายังคงยืดเยื้อ ซึ่งจะช่วยหนุนราคาทองคำแตะระดับ 1,200-1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ด้านราคาทองในประเทศมองราคาสูงสุดที่ 18,500-19,500 บาท ภายใต้ค่าเงินบาทอยู่ใกล้ๆ บริเวณ 34 บาทต่อดอลลาร์ หรืออาจจะไม่สามารถเจรจาขอรับเงินช่วยเหลือได้ และกรีซต้องออกจากยูโรโซนโดยจะหนุนราคาทองคำมีโอกาสบวกแรงในช่วง 1 เดือนแรกที่ออกจากลุ่มยูโรหนุนทองแตะสูงสุด 1,230-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านราคาทองในประเทศกรอบสูงสุดอยู่ที่ 19,000-20,500 บาทภายใต้ค่าเงินบาทอยู่เหนือ 34 บาทต่อดอลลาร์
  • พลังงานเปิดซื้อไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการเดือน ส.ค.นี้ ยันไม่ถอนร่างแก้ไข พ.ร.บ. ปิโตรเลียม 2 ฉบับเพราะไม่มีอำนาจเหตุกฤษฎีกาเห็นชอบแล้วเรื่องเตรียมเข้า ครม. ก่อนผ่านสนช.เป็นขั้นตอนตามกฎหมาย หากผ่าน สนช.พร้อมเปิดให้เอกชนยื่นสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบ 21 ได้ทันทีและร่นเวลาให้ยื่นภายใน 60 วันจากเดิม120 วัน ชี้ล่าช้ามานาน-เอกชนพร้อมเต็มที่
  • รมช.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟเอเอ) จะเข้ามาตรวจสอบกรมการบินพลเรือน และสายการบินไทยในวันที่ 13-17 ก.ค.นี้ ว่า เชื่อมั่นว่ากรมการบินพลเรือนมีความพร้อมที่จะให้ตรวจสอบ ซึ่งเอฟเอเอจะเน้นการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัย ความพร้อมของเครื่องบิน ลูกเรือ รวมถึงการกำกับดูแล การออกใบอนุญาตการบิน การออกใบรับรอง เป็นต้น คาดสรุปและประมวลผลการตรวจสอบพร้อมข้อเสนอแนะและอีก 65 วันจะทราบผลอย่างเป็นทางการ
*หุ้นเด่นวันนี้
  • TISCO(ธนชาต)"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 52 บาท กำไรอ่อนแอกว่าคาดที่ 1.0 พันลบ.เพิ่มขึ้น 1% y-y แต่ลดลง 16% q-q แต่กำไร 1H15 คิดเป็น 47% ของประมาณการทั้งปีของเรา จึงคงประมาณการและราคาเป้าหมายเช่นเดิม ผลดำเนินงานอ่อนแอมีสาเหตุจากการตั้งสำรองพิเศษ 300 ลบ.ในไตรมาสนี้ อัตราเติบโตของสินเชื่อหดตัวลง 2%q-q เนื่องจากสินเชื่อเช่าซื้อลดลง 2.5% อัตราการเติบโต YTD อยู่ที่ -5% เทียบกับประมาณการทั้งปีที่ -3% ส่วนการเพิ่มขึ้นของ NPLs ในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จากการชำระเงินที่ล่าช้าตามฤดูกาลที่มีวันหยุดยาวมาก NPL จึงเพิ่มขึ้น 6% q-q ทำให้ NPL ratio เพิ่มขึ้นเป็น 2.86% จาก 2.65% ใน 1Q15 แต่เป็นปัจจัยฤดูกาล ขณะที่การเพิ่มขึ้นอย่างมากของการตั้งสำรองก็เป็นการเพิ่มขึ้นเพียงครั้งเดียว
  • TRUE(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 13.50 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q58 ลดลง 71.6% QoQ แต่ดีขึ้นมาก หากเทียบกับ 2Q57 ที่ขาดทุน 1.7 พันล้านบาท แม้กำไรสุทธิอ่อนตัวลง QoQ จากแรงกดดันด้านต้นทุน แต่เพิ่มส่วนแบ่งการตลาด service revenue ex.IC ของธุรกิจมือถือได้อย่างต่อเนื่อง มองแรงกดดันด้านต้นทุนเป็นเพียงเรื่องชั่วคราว ระยะยาวจะได้ประโยชน์จากการขยายโครงข่าย อย่างไรก็ตามเราได้ปรับลดประมาณการกำไรปกติของปี 58 และปี 59 ลงไปที่ 2.8 และ 2.2 พันล้านบาท เพื่อให้สะท้อนแรงกดดันด้านการลงทุนที่มากกว่าคาด
  • IFEC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)แนะ"ทยอยสะสม"ราคาเหมาะสม 18 บาท ฐานกำไรใน 2H58 จะยกตัวขึ้นจากการรับรู้รายได้โซลาร์ฟาร์มในกัมพูชาแห่งแรก 20 MW พร้อมทั้งโรงไฟฟ้าพลังลมแห่งแรกที่ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จะเริ่มจ่ายไฟฟ้า(COD)ตามกำหนดในเดือน ก.ย.คาดการณ์กำไรสุทธิปี 58 โต +238% yoy เป็น 459 ล้านบาท และ +282% yoy เป็น 1,753 ล้านบาทในปี 59 และให้เป็น Top pick กลุ่มพลังงานทางเลือก มองกลุ่มพลังงานทดแทนจะ Outperform ตลาด จากการเปิดประมูลโซลาร์ฟาร์มของภาครัฐ 800 MW ใน 3Q58 และเชื่อจะได้ราว 100MW หลังได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการจากกองทัพเรือ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ