นายเทวินทร์ กล่าวด้วยว่า การที่อิหร่านและ 6 ชาติมหาอำนาจได้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์แล้ว เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อตลาดน้ำมันมากนัก แม้จะมีปริมาณน้ำมันจากอิหร่านออกมา แต่ก็เชื่อว่าน่าจะไม่มากนัก เพราะอิหร่านยังคงต้องการรักษารายได้จากการขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติต่อไปด้วย อย่างไรก็ตาม การกรณีดังกล่าวยังเป็นโอกาสของบริษัทที่จะมีการลงทุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอิหร่านมากขึ้น รวมถึงการซื้อขายน้ำมันกับอิหร่าน ตลอดจนการขายผลิตภัณฑ์น้ำมันให้กับสายการบินอิหร่าน เป็นต้น ซึ่งบริษัทคงต้องรอความชัดเจนและหารือร่วมกันในกลุ่ม บมจ.ปตท.(PTT) ก่อนที่จะตัดสินใจดำเนินการต่อไป
สำหรับความคืบหน้าการลงทุนของ PTTEP ในโครงการที่อยู่ระหว่างเตรียมการพัฒนาทั้งในและต่างประเทศ 5-6 โครงการนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบศึกษาความเป็นไปได้การลงทุน โดยใช้ปัจจัยจากราคาน้ำมันประกอบการตัดสินใจ โดยโครงการที่มีความชัดเจนมากที่สุดคือโครงการในโมซัมบิก ซึ่งล่าสุดผู้ดำเนินโครงการได้คัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างแล้ว ขณะที่โครงการแหล่งอุบลในโครงการคอนแทร็ค 4 ซึ่งอยู่ภายในประเทศ น่ามีกำหนดสรุปแผนการลงทุนภายในสิ้นปีนี้
โครงการฮัดซีเบอร์ราเกซ(HBR)ในอัลจีเรีย คาดว่าอีก 2 ปีจะมีการเจาะหลุมประเมินผลศักยภาพเพื่อที่จะได้รับรู้แผนการพัฒนาต่อไป , โครงการเอ็ม 3 ในเมียนมาร์ คาดว่าจะประเมินผลการพิจารณาและหารือกับรัฐบาลเมียนมาร์เพื่อดำเนินโครงการ คาดว่าจะใช้เวลา 2 ปีเช่นเดียวกัน ,แหล่ง Cash/Maple ในโครงการพีทีทีอีพี ออสตราเลเซีย ประเทศออสเตรเลีย น่าจะใช้เวลาราว 2 ปีในการศึกษาเพื่อพัฒนาโครงการ
โครงการมาเรียนนา ออยล์ แซนด์ ในแคนาดานั้น อยู่ระหว่างการหาพันธมิตรร่วมลงทุน และอยู่ระหว่างการหาแนวทางการพัฒนาที่จะให้ต้นทุนการผลิตต่ำลงจากปัจจุบัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบขณะนี้ไม่คุ้มกับการลงทุน ซึ่งบริษัทต้องลดค่าใช้จ่ายให้มากขึ้น และได้เจรจากับรัฐบาลแคนาดาเพื่อหารือถึงการลดเงื่อนไขการทำกิจกรรมตามข้อกำหนดในโครงการลงบ้าง เพื่อลดค่าใช้จ่ายในระหว่างการรอการพัฒนาโครงการ ซึ่งคาดว่ากว่าจะเริ่มพัฒนาโครงการได้อาจต้องใช้เวลาราว 2 ปีเช่นเดียวกัน